ขั้นตอนการเลิก
1. บริษัทจะเลิกกันได้ด้วยเหตุดังต่อไปนี้
1.1 เลิกโดยผลของกฎหมาย
(1) กรณีข้อบังคับกําหนดเหตุเลิกไว้และเมื่อมีเหตุนั้นเกิดขึ้น
(2) ตั้งบริษัทโดยกําหนดระยะเวลาไว้และเมื่อสิ้นสุดระยะเวลานั้น
(3) ตั้งบริษัทเพื่อทํากิจการอย่างหนึ่งอย่างใด และเมื่อทํากิจการนั้นเสร็จแล้ว
(4) บริษัทล้มละลาย
1.2 โดยความประสงค์ของผู้ถือหุ้น
(1) ผู้ถือหุ้นลงมติพิเศษให้เลิกบริษัท
การเลิกและชําระบัญชีบริษัทจํากัดในกรณีที่ที่ประชุมผู้ถือหุ้นมีมติพิเศษให้เลิกบริษัท โดย ดําเนินการจัดประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้น เพื่อลงมติพิเศษให้เลิกบริษัทด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ของ จํานวนหุ้นที่เข้าประชุม
1.3 เลิกโดยคําสั่งศาล เหตุที่ศาลจะสั่งเลิกบริษัทคือ
(1) ทําผิดในการยื่นรายงานประชุมตั้งบริษัท หรือทําผิดในการประชุมตั้งบริษัท
(2) บริษัทไม่เริ่มประกอบการภายใน 1 ปีนับแต่จดทะเบียน หรือหยุดทําการถึง 1 ปี
(3) การค้ามีแต่ขาดทุนและไมมีหวังกลับฟื้นคืน
(4) จํานวนผู้ถือหุ้นเหลือไม่ถึง 3 คน
คําขอจดทะเบียนเลิกและอํานาจของผู้ชําระบัญชีของบริษัท จะต้องลงลายมือชื่อโดยผู้ชําระบัญชี ซึ่ง ได้แก่กรรมการที่ลงชื่อผูกพันบริษัทตามที่จดทะเบียนไว้ก่อนเลิก
การแต่งตั้งผู้ชําระบัญชีของบริษัท หากข้อบังคับของบริษัทไม่ได้กําหนดไว้เป็นอย่างอื่น กรรมการทุก คนของบริษัทต้องเป็นผู้ชําระบัญชี โดยผลของกฎหมาย ถ้าผูชําระบัญชีมีหลายคน ผู้ชําระบัญชีทุกคนต้อง กระทําการร่วมกัน เว้นแต่ที่ประชุมใหญ่หรือศาลจะได้กําหนดอํานาจไว้เป็นอย่างอื่น
ในกรณีที่บริษัทไม่ได้กําหนดข้อบังคับในเรื่องการตั้งผู้ชําระบัญชีไว้ หากบริษัทประสงค์จะตั้งกรรมการ บางคน หรือ กรรมการคนใดคนหนึ่ง หรือบุคคลอื่นที่ไม่ใช่กรรมการของบริษัทเป็นผู้ชําระบัญชีจะต้องให้ที่ ประชุมใหญ่ผู้ถือหุ้นของบริษัทมีมติตั้งผู้ชําระบัญชีหรือกําหนดอํานาจของผู้ชําระบัญชี
เมื่อบริษัทจํากัดซึ่งเป็นนิติบุคคลเลิกกัน บริษัทจะยังคงตั้งอยูเพื่อการชําระบัญชี การเลิกบริษัทกรณี อื่นนอกจากล้มละลายตhองมีการแต่งตั้งผู้ชําระบัญชี เพื่อดําเนินการจดทะเบียนเลิกบริษัทและชําระบัญชีของ บริษัทให้เสร็จสิ้นไป เช่น การรวบรวมทรัพย์สิน ชําระหนี้ ชดใช้เงินทดรองและค่าใช้จ่ายที่กรรมการได้ ออกไปในการดําเนินกิจการค้าแทนบริษัท หากมีทรัพย์สินเหลือให้คืนทุนและเฉลี่ยเป็นกําไรในระหว่างผู้ถือหุ้น และจดทะเบียนเสร็จการชําระบัญชี เมื่อได้จดทะเบียนเสร็จการชําระบัญชีแล้ว การฟ้องคดีเรียกหนี้สินที่ บริษัท กรรมการหรือผู้ชําระบัญชีเป็นหนี้อยู่นั้น จะต้องทําการฟ้องภายใน 2 ปีนับแต่วันเสร็จสิ้นการชําระ บัญชี
2. ผู้ชําระบัญชีจัดทําคําขอและยื่นจดทะเบียนเลิกบริษัท
3. ประกาศโฆษณาในหนังสือพิมพ์แห่งท้องที่ 1 ครั้ง เป็นอย่างน้อย
4. ส่งคําบอกกล่าวเป็นจดหมายลงทะเบียนไปรษณีย์ไปยังเจ้าหนี้ (ถ้ามี)
ขั้นตอนตาม 2-4 ผู้ชําระบัญชีต้องดําเนินการภายใน 14 วัน นับแต่วันที่เลิกบริษัท
เอกสารที่ใช้ประกอบการจดทะเบียนเลิกบริษัท
เอกสารที่ใช้ประกอบการจดทะเบียนขอเลิกบริษัท
1. แบบ ลช1 และ ลช2
2. สําเนาบัตรประจําตัวของผู้ชำระบัญชี ทั่วไปก็จะแต่งตั้งกรรมการบริษัทเป็นผู้ชำระบัญชี
3. หนังสือมอบอำนาจ กรณีผู้ชำระบัญชีไม่ได้ไปเอง
เอกสารที่ใช้ประกอบการแจ้งเลิกภาษีมูลค่าเพิ่ม
1. หนังสือรับรองบริษัท ฉบับที่กรมพัฒนาฯออกให้หลังจากจดทะเบียนขอเลิก
2. ภพ09 ใบแจ้งการเปลี่ยนแปลงภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีเลิกกิจการ
3. ภพ30 + ใบเสร็จ ย้อนหลังประมาณ 3 ปี
4. ภงด50 + ใบเสร็จ พร้อมงบการเงิน ย้อนหลังประมาณ 3 ปี
5. ภพ 20 , ภพ 01 หากไม่มีต้องใช้ใบแจ้งความ
6. หนังสือมอบอำนาจ กรณีผู้ชำระบัญชีไม่ได้ไปเอง
ระหว่าง รอเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ ก่อนแจ้งตัดรายชื่อกิจการออกจากระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม
1. ยื่น ภพ30 ตามปกติทุกเดือน
2. เตรียมภงด50 + ใบเสร็จ พร้อมงบการเงิน ณ วันเลิกกิจการ
เอกสารที่ใช้ประกอบการจดเสร็จการชำระบัญชี
1. แบบลช 1, 3, 5
2. งบการเงิน ณ วันเลิก
3. รายละเอียดสมุดบัญชี ที่มี
4. แบบรับรองการตรวจสอบบัญชีของกรมสรรพากร
5. สําเนาบัตรประจําตัวของผู้ชำระบัญชี
6. หนังสือมอบอำนาจ กรณีผู้ชำระบัญชีไม่ได้ไปเอง
รวบรวมโดย นายจรัส อินทร์คง