ตรวจสอบบัญชี,ทำบัญชี,สำนักงานบัญชี,สำนักงานตรวจสอบบัญชี,สอบบัญชี เงินได้พึงประเมินที่ผู้เสีย ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา มีสิทธิแยกคำนวณภาษี
ReadyPlanet.com
dot dot
dot
ติดต่อเรา/Contact us
dot
bulletติดต่อเรา/Contact us
dot
บริการของสำนักงาน
dot
bulletตรวจสอบบัญชี
bulletบริการทาง บัญชี ภาษี
bulletจดทะเบียนบริษัท
bulletบริการด้านกฏหมาย
bulletบริการยื่นแบบและนำส่งภาษี
dot
บริการตรวจค้นข้อมูลธุรกิจ
dot
bulletตรวจค้นข้อมูลจดทะเบียนธุรกิจ
bulletตรวจค้นข้อมูลงบการเงิน
bulletรายชื่อผู้ทำบัญชี
bulletรายชื่อผู้สอบบัญชี ( CPA )
bulletรายชื่อผู้ตรวจสอบและรับรองบัญชี - กรมสรรพากร (TA)
bulletชื่อผู้สอบบัญชีของนิติบุคคล
bulletผู้ตรวจสอบและรับรองบัญชีแจ้งชื่อห้างฯที่ตรวจสอบ
bulletชื่อผู้ประกอบการภาษีมูลค่าเพิ่ม
bulletงบการเงินบริษัทจดทะเบียน
bulletปฏิทินภาษี
bulletอัตราแลกเปลี่ยนธนาคารแห่งประเทศไทย
bulletดอกเบี้ยเงินฝาก เงินกู้ทุกธนาคาร
dot
บริการคลังข้อมูลบัญชี
dot
bulletระบบค้นหาข้อมูลผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม 13 หลัก
bulletจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม
bulletจดทะเบียนภาษีธุรกิจเฉพาะ
bulletยื่นแบบชำระภาษีออนไลน์
bulletหน่วยบริการภาษีใน กรุงเทพฯ
bulletตรวจค้นข้อมูลขอคืนภาษี ภงด.90,91
bulletแจ้งเพิ่ม ลด งานทำบัญชีของผู้ทำบัญชี
bulletแจ้งเพิ่ม ลด งานสอบบัญชี CPA
bulletยื่นแบบ บภ.แจ้งเพิ่ม ลด งานสอบบัญชี TA
bulletตรวจค้นหลักสูตร CPD ของผู้ทำบัญชีและผู้สอบบัญชี
bulletแบบฟอร์มเอกสารต่างๆของกรมพัฒน์ฯ(DBD)
bulletแบบฟอร์มเอกสารสภาวิชาชีพบัญชี
bulletเครื่องมือช่วยในการสอบบัญชี (Audit Tools) ของสภาวิชาชีพบัญชี
bulletแบบฟอร์มภาษีกรมสรรพากร
bulletแบบฟอร์มประกันสังคม
bulletแบบฟอร์มจดทะเบียนของกรมพัฒน์ฯ(DBD)
bulletรายการย่อที่ต้องมีในงบการเงิน
bulletความหมายของรายการย่อในงบการเงิน
bulletศัพท์บัญชี ไทย-อังกฤษ
bulletศัพท์บัญชี อังกฤษ-ไทย
bulletคำถามบัญชี/สอบบัญชีที่พบบ่อย
bulletความแตกต่างระหว่าง CPA และ TA
bulletคุณวุฒิการศึกษาทางการบัญชีที่สภาวิชาชีพรับรอง
dot
กฏหมายทั่วไป และ ภาษีอากร
dot
bulletความรู้เรื่องภาษี-ภาษีเงินได้ตามประมวลรัษฎากร
bulletข้อหารือภาษีอากร
bulletแบบฟอร์มสัญญาต่างๆทางกฏหมาย
bulletแบบฟอร์มศาล/แบบพิมพ์ศาล
bulletรวมประมวลกฏหมาย
bulletความผิดอาญา ที่ยอมความได้
bulletคลีนิกกฏหมาย จาก หนังสือพิมพ์ เดลินิวส์ (1)
bulletคลีนิกกฏหมาย จาก หนังสือพิมพ์ เดลินิวส์ (2)
bulletรู้ทันภัยใกล้ตัว จาก หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ (1)
dot
ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อนักบัญชีและผู้สอบบัญชี
dot
bulletข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อนักบัญชีและผู้สอบบัญชี
bulletกำหนดการทดสอบความรู้ของผู้ขอขึ้นทะเบียนเป็นผู้สอบบัญชีรับอนุญาต
bulletเส้นทางการเป็นผู้สอบบัญชีรับอนุญาต CPA
bulletTA เปิดรับสมัครสอบปีละ 3 ครั้ง
bulletประกาศผลสอบ CPA
bulletข้อสังเกตจากคณะกรรมการผู้ตรวจข้อสอบของ TA โดยสรุป
bulletข้อสังเกตุจากอนุกรรมการผู้ตรวจข้อสอบ CPA โดยสรุป (จากสภาวิชาชีพ)
bulletUpdate มาตรฐานการบัญชี มาตรฐานการรายงานทางการเงิน การตีความ และร่างการตีความ จากสภาวิชาชีพบัญชี
bulletขอบเขตรายวิชาที่ต้องเข้ารับการทดสอบ เป็นผู้สอบบัญชี (CPA)
dot
คำถามน่ารู้เกี่ยวกับการทำบัญชี(ข้อมูลจากสภาวิชาชีพบัญชี)
dot
bulletปัญหาเกี่ยวกับผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชี
bulletปัญหาเกี่ยวกับผู้ทำบัญชี
bulletปัญหาเกี่ยวกับการพัฒนาความรู้ต่อเนื่องทางวิชาชีพ
bulletปัญหาเกี่ยวกับมาตรฐานการบัญชี
bulletปัญหาเกี่ยวกับการจัดทำงบการเงิน
bulletปัญหาเกี่ยวกับพระราชบัญญัติวิชาชีพบัญชี
bulletปัญหาเกี่ยวกับการรายงานการสอบบัญชี
bulletคำถามที่พบบ่อย : บัญชีธุรกิจ และ ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต จาก กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์
bulletประเด็นคำถาม-คำตอบที่เป็นประโยชน์จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
bulletคำถามที่ถูกถามบ่อย จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
bulletประเด็นคําถาม - คําตอบ เกี่ยวกับการทำบัญชีและสอบบัญชี ของ กองกำกับบัญชีธุรกิจ
dot
ตัวอย่าง แนวการสอบบัญชี โดยย่อ
dot
bulletเงินสดและเงินฝากธนาคาร
bulletลูกหนี้การค้า
bulletสินค้าคงเหลือ
bulletที่ดิน อาคารและอุปกรณ์
bulletสินทรัพย์หมุนเวียนอื่น
bulletสินทรัพย์ไม่หมุนเวียนอื่น
bulletเงินลงทุน
bulletเจ้าหนี้การค้า
bulletหนี้สินหมุนเวียนอื่น
bulletเงินกู้ยืม
bulletส่วนของผู้ถือหุ้น
bulletรายได้
bulletซื้อสินค้า
bulletต้นทุนขาย
bulletค่าใช้จ่ายขายและบริหาร
bulletการรับเงิน แนวการรับเงิน
bulletการจ่ายเงิน แนวการจ่ายเงิน
bulletแนวการสอบบัญชี เงินเดือน
bulletการจัดทำแนวทางการสอบบัญชีของผู้สอบบัญชีภาษีอากร (TA)
dot
มรรยาท (จรรยาบรรณ) ของผู้ประกอบวิชาชีพบัญชี
dot
bulletมรรยาท (จรรยาบรรณ) ของ ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต(เดิม)
bulletจรรยาบรรณของ ผู้ประกอบวิชาชีพบัญชี (ออกใหม่ปี 53)
bulletคำชี้แจงจรรยาบรรณของผู้ประกอบวิชาชีพบัญชี
bulletคำชี้แจงข้อบังคับจรรยาบรรณ สำหรับผู้สอบบัญชี
bulletคำชี้แจงข้อบังคับจรรยาบรรณ สำหรับผู้ทำบัญชี
bulletจรรยาบรรณ ของ ผู้สอบบัญชี ภาษีอากร
bulletความรับผิดชอบของผู้สอบบัญชี
dot
ตัวอย่างรายงานการสอบบัญชี (บางส่วน)
dot
bulletตัวอย่างรายงานผู้สอบบัญชีรับอนุญาต บังคับ 31 ธ.ค 65 เป็นต้นไป
bulletตัวอย่างรายงานของผู้สอบบัญชีสำหรับกิจการที่ไม่มีส่วนได้เสียสาธารณะ(์NPAEs)
bulletตัวอย่างรายงานผู้สอบบัญชีงบเลิกกิจการ ณ วันจดทะเบียนเลิกกิจการ
bulletรายงานการตรวจสอบและรับรองบัญชีของ TA (ท.ป.194/2555)
bulletตัวอย่างรายงานของผู้สอบบัญชีสำหรับกองทุนรวม/กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
bulletรายงานของมูลนิธิและสมาคม
dot
กำหนดรายการย่อที่ต้องมีในงบการเงิน พ.ศ.2544 ตามประกาศกรมพัฒนาธุรกิจการค้า (ยกเลิกแล้วในปี 2551-ไม่ใช้แล้ว)
dot
bulletงบการเงิน ห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน
bulletงบการเงิน บริษัทจำกัด
bulletงบการเงิน บริษัทมหาชนจำกัด
bulletงบการเงิน นิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฏหมายต่างประเทศ
bulletงบการเงิน กิจการร่วมค้าตามประมวลรัษฎากร
dot
กำหนดรายการย่อที่ต้องมีในงบการเงิน พ.ศ.2551 ตามประกาศ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า (เริ่มใช้ 1 มกราคม 2552 ถึง 31 ธันวาคม 2553)
dot
bulletรูปแบบรายการย่อ ห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน
bulletรูปแบบรายการย่อ บริษัทจำกัด
bulletรูปแบบรายการย่อ บริษัทมหาชนจำกัด
bulletรูปแบบรายการย่อ นิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฏหมายต่างประเทศ
bulletรูปแบบรายการย่อ กิจการร่วมค้าตามประมวลรัษฎากร
bulletประเด็นคำถาม – คำตอบประกาศกรม เรื่อง รายการย่อที่ต้องมีในงบการเงิน พ.ศ. 2552
dot
กำหนดรายการย่อที่ต้องมีในงบการเงิน พ.ศ.2554 ตามประกาศ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า (เริ่มใช้ 1 มกราคม 2554 เป็นต้นไป) ล่าสุด
dot
bulletรูปแบบรายการย่อ ห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน
bulletรูปแบบรายการย่อ บริษัทจำกัด
bulletรูปแบบรายการย่อ บริษัทมหาชนจำกัด (ยกเลิกปี 2562)
bulletรูปแบบรายการย่อ นิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฏหมายต่างประเทศ
bulletรูปแบบรายการย่อ กิจการร่วมค้าตามประมวลรัษฎากร
bulletรูปแบบรายการย่อ บริษัทมหาชนจำกัด เริ่มใช้ 1 มค 63
dot
ตัวอย่างการจดทะเบียนธุรกิจ
dot
bulletตัวอย่างการจดทะเบียนบริษัทจำกัด
bulletตัวอย่างการจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน/จำกัด
bulletตัวอย่างการจดทะเบียนพาณิชย์ (ร้านค้า/บุคคลธรรมดา)
bulletตัวอย่างการจดทะเบียนบริษัทมหาชนจำกัด
dot
ตัวอย่าง การควบคุมภายใน โดยย่อ
dot
bulletการควบคุมภายใน การรับเงิน
bulletการควบคุมภายใน การจ่ายเงินสดย่อย
bulletการควบคุมภายใน การจ่ายเช็ค
bulletการควบคุมภายใน การจ่ายเงินเดือนและค่าแรง
bulletการควบคุมภายใน การขาย
bulletการควบคุมภายใน การซื้อ
bulletการควบคุมภายใน ลูกหนี้การค้า
bulletการควบคุมภายใน เจ้าหนี้การค้า
bulletการควบคุมภายใน สินค้าคงเหลือ
bulletการควบคุมภายใน สินทรัพย์ถาวร
dot
ตัวอย่าง กระดาษทำการ ตรวจสอบบัญชี (working paper)
dot
bulletเงินสด เงินฝากธนาคาร เงินเบิกเกินบัญชี
bulletกระดาษทำการ ตรวจนับเงินสดย่อย
bulletทดสอบความถูกต้องการรับเงิน
bulletการทดสอบความถูกต้องของรายการจ่ายเงิน
bulletกระดาษทำการ เงินลงทุน
bulletลูกหนี้การค้า (1)
bulletลูกหนี้การค้า (2)
bulletสินค้าคงเหลือ
bulletการตรวจตัดยอดขาย
bulletการตรวจตัดยอดซื้อ
bulletสินทรัพย์ถาวร (1)
bulletทรัพย์สินถาวร (2)
bulletทรัพย์สินถาวร (3)
bulletสินทรัพย์อื่น
bulletเงินกู้ยืม 1
bulletเงินกู้ยืม 2
bulletเจ้าหนี้การค้า
bulletหนี้สินหมุนเวียนอื่น+ค่าใช้จ่ายค้างจ่าย
bulletทุน
bulletกำไรสะสม
bulletรายได้และค่าใช้จ่าย
bulletรายได้
bulletการทดสอบความถูกต้องของรายการขาย
bulletการทดสอบความถูกต้องของรายการซื้อ
bulletวิเคราะห์ค่าใช้จ่ายขายและบริหาร
dot
Links ในเมืองไทยที่น่าสนใจ
dot
bulletข่าวและหนังสือพิมพ์
bulletเว็บยอดฮิต
bulletหน่วยงานราชการ
bulletองค์กรต่างๆ
bulletหน่ายงานกฏหมายและศาล
bulletเว็บไซด์พื้นฐาน
bulletวารสาร สรรพากรสาส์น
bulletกรมสรรพากร
bulletกรมพัฒนาธุรกิจการค้า
bulletสภาวิชาชีพบัญชี
bulletสภาทนายความ
bulletสำนักงานประกันสังคม
bulletกระทรวงแรงงาน
bulletศาลภาษีอากรกลาง
bulletตรวจหวย ( ตรวจสลากกินแบ่งรัฐบาล)
bulletรวมเวบไซด์ หางาน สมัครงาน
bulletรวมเวบไซด์ เกมส์ออนไลน์
bulletสารบัญเว็บไทย
dot
Webboard
dot
bulletWebboard
bulletเวบไซด์การเดินทาง


www.google.co.th
www.sanook.com
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์
สภาวิชาชีพบัญชี
กรมสรรพากร
เนติบัณฑิตยสภา ในพระบรมราชูปถัมภ์
สภาทนายความ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
หนังสือพิมพ์เดอะเนชั่น
หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ


เงินได้พึงประเมินที่ผู้เสีย ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา มีสิทธิแยกคำนวณภาษี

เงินได้พึงประเมินบางประเภท   ประมวลรัษฎากร  ให้สิทธิผู้ที่มีเงินได้พึงประเมินดังกล่าวสามารถแยกคำนวณภาษี  โดยไม่ต้องนำไปรวมคำนวณกับเงินได้พึงประเมินประเภทอื่นในการยื่นแบบแสดงรายการเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ด้วย  โดยกำหนดไว้ในมาตรา  ๔๘ ( ๓ ) ถึง ( ๕ )   ทั้งนี้  เนื่องจาก มาตรา  ๕๐ แห่งประมวลรัษฎากร  ได้บัญญัติให้ผู้ที่จ่ายเงินได้พึงประเมินดังกล่าว ต้องหักภาษีเงินได้ไว้    ที่จ่าย แล้ว  ซึ่งบทบัญญัติของกฎหมายดังกล่าวเป็นการบรรเทาภาระภาษีให้ผู้มีเงินได้  เพราะการนำเงินได้พึงประเมินดังกล่าวมารวมกับเงินได้อื่น  ทำให้เงินได้สุทธิมีจำนวนมากขึ้น  และอาจต้องเสียภาษีในอัตราที่สูงกว่าจำนวนภาษีที่ถูกหักไว้ที่จ่าย  เงินได้พึงประเมินดังกล่าว คือ

                                ๑ )  กรณีตามมาตรา  ๔๘ ( ๓ )   ผู้มีเงินได้จะเลือกเสียภาษีในอัตราร้อยละ  ๑๕  ของเงินได้  โดยไม่ต้องนำไปรวมคำนวณภาษีกับเงินได้อื่นก็ได้  สำหรับเงินได้ตามมาตรา  ๔๐ ( ๔ ) ( ก ) และ ( ช ) ที่กำหนดไว้ในมาตรา  ๔๘ ( ๓ ) ( ก ) ( ข ) และ ( ค ) เท่านั้น  เงินได้ดังกล่าวคือ      ดอกเบี้ยพันธบัตร  ดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารในราชอาณาจักร  ดอกเบี้ยเงินฝากสหกรณ์  ดอกเบี้ยหุ้นกู้  ส่วนดอกเบี้ยตั๋วเงินและดอกเบี้ยเงินกู้ยืมนั้น  จะต้องเป็นกรณีที่ได้รับจากบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล หรือนิติบุคคลอื่นเท่านั้น  รวมถึงดอกเบี้ยที่ได้รับจากสถาบันการเงินที่มีกฎหมายโดยเฉพาะของประเทศไทยจัดตั้งขึ้นสำหรับให้กู้ยืมเงินเพื่อส่งเสริมเกษตรกรรม  พาณิชยกรรม  หรืออุตสาหกรรม   ผลต่างระหว่างราคาไถ่ถอนกับราคาจำหน่ายตั๋วเงิน  หรือตราสารแสดงสิทธิในหนี้ ที่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล หรือนิติบุคคลอื่นเป็นผู้ออก  และผลประโยชน์ที่ได้จากการโอนพันธบัตร  หุ้นกู้  ตั๋วเงิน หรือตราสารแสดงสิทธิในหนี้ที่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลหรือนิติบุคคลอื่นเป็นผู้ออก เฉพาะที่ตีราคาเป็นเงินได้เกินกว่าที่ลงทุน 

                จะเห็นได้ว่า  เงินได้ตามมาตรา  ๔๐ ( ๔ ) ( ช ) ที่เลือกเสียภาษีได้ตามมาตรานี้  ไม่รวมถึงผลประโยชน์ที่ได้รับจากการโอนการเป็นหุ้นส่วนด้วย

                สำหรับเงินได้ที่เป็นเงินปันผลและส่วนแบ่งกำไรตามมาตรา  ๔๐ ( ๔ ) ( ข )  จะเลือกเสียภาษีได้ในอัตราร้อยละ  ๑๐  ได้เฉพาะเงินปันผลที่ได้รับจากบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย  กองทุนรวม  หรือสถาบันการเงินที่มีกฎหมายโดยเฉพาะของประเทศไทยจัดตั้งขึ้นสำหรับการให้กู้ยืมเพื่อส่งเสริมเกษตรกรรม  พาณิชยกรรม  หรืออุตสาหกรรม เท่านั้น ตามมาตรา  ๔๘ ( ๓ ) วรรคสอง

                หากผู้มีเงินได้ตามมาตรา  ๔๐ ( ๔ ) ( ข )  นำเงินได้ดังกล่าวมารวมคำนวณเสียภาษีในการยื่นแบบแสดงรายการเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา  ก็จะได้รับเครดิตภาษีตามมาตรา  ๔๗ ทวิตามที่ได้ศึกษามาแล้ว

                ผู้มีเงินได้ตามมาตรานี้ จะถูกผู้จ่ายเงินได้หักภาษี  ณ ที่จ่าย ไว้แล้ว  เมื่อได้รับเงินได้ในอัตราเดียวกัน ตามมาตรา  ๕๐ ( ๒ ) แห่งประมวลรัษฎากร

                สำหรับเงินได้ที่เป็นเงินฝากธนาคารในราชอาณาจักรนั้น  พระราชกฤษฎีกา ฯ ( ฉบับที่  ๒๙๐ ) พ.ศ.  ๒๕๓๘ มาตรา    ลดอัตราภาษีสำหรับเงินได้ที่เป็นดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารในราชอาณาจักรที่เป็นเงินฝากประจำตั้งแต่    ปี ขึ้นไป และเมื่อครบกำหนดฝากแล้วได้ถอนเงินฝากเพื่อใช้สำหรับการศึกษาของตนเองและครอบครัว หรือเพื่อใช้สำหรับที่อยู่อาศัยของตนเองและครอบครัว  หรือเมื่อผู้ฝากมีอายุครบ  ๕๕  ปี บริบูรณ์ขึ้นไป  โดยต้องเป็นบัญชีฝากประจำที่มีสมุดเงินฝากโดยเฉพาะเพื่อการเสียภาษีอัตราพิเศษนี้  แยกต่างหากจากเงินฝากประเภทอื่น  และต้องไม่นำเงินฝากดังกล่าวไปค้ำประกันการกู้ยืมเงินของตนเองหรือผู้อื่น  โดยให้เสียภาษีในอัตราร้อยละ  ๑๐  โดยธนาคารมีหน้าที่หักภาษีไว้    ที่จ่าย ตามมาตรา  ๕๐ ( ๒ ) ( ข )  และผู้มีเงินได้มีสิทธิเลือกเสียภาษีในอัตราดังกล่าวโดยไม่ต้องนำไปรวมกับเงินได้อื่น ตามมาตรา ๔๘ ( ๓ ) ( ก )

                สิทธิของผู้เสียภาษีตามมาตรา  ๔๓ ( ๓ )  นี้  ไม่มีกฎหมายกำหนดเวลาการใช้สิทธิ  หรือห้ามแก้ไขเปลี่ยนแปลงการใช้สิทธิไว้  ผู้มีเงินได้จึงมีสิทธิที่จะยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจำปีภาษีนั้นใหม่  โดยไม่ต้องนำเงินได้ตามมาตรา  ๔๘ ( ๓ ) ( ก )  ดังกล่าวไปรวมคำนวณกับเงินได้อื่นได้  ( คำวินิจฉัยของคณะกรรมการวินิจฉัยภาษีอากร ที่  ๑๙ / ๒๕๓๓ )

                                ๒)  กรณีตามมาตรา  ๔๘ ( ๔ )  ผู้มีเงินได้ตามมาตรา  ๔๐ ( ๘ )  จากการขายอสังหาริมทรัพย์อ้นเป็นมรดก  หรืออสังหาริมทรัพย์ที่ได้มาโดยมิได้มุ่งในทางการค้าหรือหากำไร  มีสิทธิที่จะเลือกเสียภาษีเงินได้โดยคำนวณภาษีตามมาตรา  ๔๘ ( ๔ )  และไม่ต้องนำเงินได้ดังกล่าวไปรวมคำนวณกับเงินได้อื่นในการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา  โดยแยกเป็น    กรณี คือ

                                ( ก )  เงินได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์อันเป็นมรดก  หรืออสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับจากการให้โดยเสน่หา    การได้อสังหาริมทรัพย์ไม่ว่าโดยทางมรดก หรือได้รับการยกให้โดยเสน่หานั้น  เป็นการได้มาโดยมิได้มุ่งในทางการค้าหรือหากำไร  และไม่มีต้นทุน หากต้องนำเงินได้ที่ได้รับจากการขายอสังหาริมทรัพย์ไปรวมกับเงินได้อื่นในการคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาก็จะทำให้เสียภาษีเป็นจำนวนมาก  เพราะไม่มีค่าใช้จ่ายที่จะนำไปหักตามความจำเป็นและสมควร  แต่เนื่องจากผู้ที่ได้อสังหาริมทรัพย์มาโดยวิธีดังกล่าวมิได้มุ่งในทางการค้าหรือหากำไร  เมื่อขายอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าวไป  ประมวลรัษฎากรจึงให้สิทธิที่จะเลือกไม่นำไปรวมคำนวณกับเงินได้อื่น และกำหนดวิธีคำนวณภาษีที่จะต้องเสียจากเงินได้ที่ได้รับจากการขายอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าว โดย ให้หักค่าใช้จ่ายเป็นการเหมา ในอัตราร้อยละ  ๕๐  เหลือเท่าใดถือเป็นเงินได้สุทธิ  แล้วหารด้วยจำนวนปีที่ถือครอง  ได้ผลลัพธ์เป็นเงินเท่าใดให้คำนวณภาษีตามอัตราภาษีเงินได้  แล้วคูณด้วยจำนวนปีที่ถือครอง  ผลลัพธ์เป็นเงินภาษีที่ต้องเสีย

                สำหรับเงินได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ที่จะนำมาคำนวณเสียภาษีนั้น  มาตรา  ๔๙ ทวิ ให้เจ้าพนักงานประเมินกำหนดราคาขายอสังหาริมทรัพย์นั้นโดยถือตามราคาประเมินทุนทรัพย์เพื่อเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมตามประมวลกฎหมายที่ดินซึ่งใช้อยู่ในวันโอน  ไม่ว่าราคาที่ซื้อขายกันตามปกติในท้องตลาดจะเป็นเท่าใดก็ตาม  ดังนั้น  หากราคาประเมินของอสังหาริมทรัพย์ที่ขายไปเป็นเงิน  ๑,๐๐๐,๐๐๐  บาท  แต่ขายอสังหาริมทรัพย์ไปในราคา  ๑๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท  เงินได้พึงประเมินที่จะต้องนำมาคำนวณภาษีตามมาตรานี้  คือ ๑,๐๐๐,๐๐๐  บาท เท่านั้น

                ส่วน “จำนวนปีที่ถือครอง”  มาตรา  ๔๘ ( ๔ ) วรรคท้าย  หมายถึงจำนวนปีที่ได้กรรมสิทธิ์ หรือสิทธิครอบครองในอสังหาริมทรัพย์นั้น  ถ้าเกิน  ๑๐  ปี ให้นับเพียง  ๑๐ ปี  และเศษของปีให้นับเป็น ๑ ปี  เช่น  ได้ที่ดินมรดกมาในเดือน ธันวาคม  ๒๕๔๕  และขายที่ดินไปในเดือน มกราคม  ๒๕๔๙  จำนวนปีที่ถือครองคือ    ปี  หากที่ดินดังกล่าวมีราคาประเมินเพื่อเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม  ๑,๐๐๐,๐๐๐  บาท   เมื่อหักค่าใช้จ่ายร้อยละ  ๕๐  แล้วจะเหลือเป็นเงินได้สุทธิ  ๕๐๐,๐๐๐  บาท  หารด้วยจำนวนปีที่ถือครอง    ปี เหลือเป็นเงินได้ในการคำนวณภาษี  ๑๐๐,๐๐๐  บาท   คำนวณภาษีเงินได้ตามอัตราภาษีเงินได้ร้อยละ    เป็นเงิน       ๕,๐๐๐  บาท  แล้วนำจำนวนปีที่ถือครองคือ    มาคูณ  คงเป็นภาษีเงินได้ที่ต้องชำระ  ๒๕,๐๐๐ บาท  การคำนวณตามมาตรานี้  จะไม่นำพระราชกฤษฎีกา ฯ ( ฉบับที่  ๔๓๐ )  พ.ศ.  ๒๕๔๘  มาใช้บังคับ เพราะไม่ใช่การคำนวณตามมาตรา  ๔๘ ( ๑ )

                                ( ข )  เงินได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ที่ได้มาจากทางอื่นนอกจาก ( ก )   หมายความว่า  อสังหาริมทรัพย์ที่ได้มาโดยมิได้มุ่งในทางการค้าหรือหากำไรนั้น  มิได้มาโดยไม่มีต้นทุนเหมือนกรณีตาม มาตรา ๔๘ ( ๔ ) ( ก )  เช่น  ซื้อบ้านพร้อมที่ดินมาใช้อยู่อาศัย  หรือซื้อที่ดินมาใช้ในการทำเกษตรของตนเอง   หรือได้รับโอนมาเป็นการชำระหนี้จากลูกหนี้  เป็นต้น   ดังนั้น  กรณีนี้  ประมวลรัษฎากรจึงให้หักค่าใช้จ่ายเป็นการเหมาตามพระราชกฤษฎีกา  ซึ่งได้แก่  พระราชกฤษฎีกา ฯ ( ฉบับที่  ๑๖๕ ) พ.ศ. ๒๕๒๙  ซึ่งให้หักค่าใช้จ่ายเป็นการเหมาตามระยะเวลาที่ถือครอง  หากถือครองเป็นระยะเวลาสั้น  ก็จะหักค่าใช้จ่ายได้มาก  โดยกำหนดว่า ถือครอง    ปี หักค่าใช้จ่ายได้ร้อยละ  ๙๒  ถือครอง    ปี  หักค่าใช้จ่ายได้ร้อยละ  ๘๔  ถือครอง ๓  ปี หักค่าใช้จ่ายได้ร้อยละ  ๗๗  ถือครอง    ปี หักค่าใช้จ่ายได้ร้อยละ  ๗๑  ถือครอง    ปี  หักค่าใช้จ่ายได้ร้อยละ  ๖๕  ถือครอง    ปี  หักค่าใช้จ่ายได้ร้อยละ  ๖๐  ถือครอง    ปี  หักค่าใช้จ่ายได้ร้อยละ  ๕๕  และ ถือครอง    ปีขึ้นไป  หักค่าใช้จ่ายได้ร้อยละ  ๕๐  หากผู้มีเงินได้มีค่าใช้จ่ายมากกว่านั้น  ก็ต้องมีหลักฐานมาแสดง และหักค่าใช้จ่ายได้ตามความจำเป็นและสมควร  โดยต้องนำมาตรา  ๖๕  ทวิ และ  ๖๕  ตรี แห่งประมวลรัษฎากรมาใช้บังคับโดยอนุโลม 

                เมื่อหักค่าใช้จ่ายแล้ว  เหลือเท่าใดเป็นเงินได้สุทธิ  แล้วหารด้วยจำนวนปีที่ถือครอง  ได้ผลลัพธ์เท่าใดนำไปคำนวณภาษีตามอัตราภาษีเงินได้  แล้วคูณด้วยจำนวนปีที่ถือครอง  ผลที่ได้คือจำนวนภาษีที่ต้องเสีย   ซึ่งวิธีการคำนวณหลังหักค่าใช้จ่ายตามพระราชกฤษฎีกาแล้ว ก็เหมือนกับกรณีตาม ข้อ ( ก ) นั้นเอง

                การคำนวณภาษีตามข้อ ( ก ) และ ( ข )  ดังกล่าว หากเกินกว่าร้อยละ  ๒๐  ของราคาขายคือประเมินตามมาตรา  ๔๙  ทวิ แล้ว จะต้องเสียเพียงร้อยละ  ๒๐  เท่านั้น ตามมาตรา  ๔๘ ( ๔ ) วรรคสอง  หากผู้มีเงินได้นำเงินได้ดังกล่าวไปรวมคำนวณกับเงินได้อื่น  มาตรา  ๔๘ ( ๔ ) วรรคสาม ให้หักค่าใช้จ่ายได้ ตามที่กำหนดไว้ใน ( ก ) หรือ ( ข ) แล้วแต่กรณี  แล้วนำเงินได้ที่เหลือไปรวมคำนวณกับเงินได้อื่น

                การเลือกเสียภาษีตามมาตรานี้  คำพิพากษาศาลฎีกาที่  ๕๓๒๓ / ๒๕๓๔  วินิจฉัยว่า  สิทธิที่จะเลือกเสียภาษีตามมาตรานี้  มิได้มีข้อจำกัดว่าจะหมดไปเมื่อใด  ดังนั้นจึงต้องถือว่าสิทธิของผู้เสียภาษีคงมีอยู่ตลอดเวลาที่ภาระในการเสียภาษียังคงมีอยู่  เมื่อเห็นได้ว่าการที่เสียยื่นเสียภาษีโดยวิธีนำเงินได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ตามมาตรา  ๔๘ ( ๔ )  มารวมคำนวณนั้น  เกิดจากความสำคัญผิด  เมื่อภาระหน้าที่ในการชำระภาษีของโจทก์ยังคงมีอยู่  โจทก์จึงมีสิทธิที่จะเปลี่ยนแปลงการยื่นแบบแสดงรายการเพื่อเสียภาษีเสียใหม่  โดยใช้วิธีการไม่นำเงินได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าวมารวมคำนวณเสียภาษี  เพื่อบรรเทาภาระภาษีตามที่ประมวลรัษฎากรให้สิทธิไว้ได้

          เงินได้พึงประเมินตามมาตรา  ๔๐ ( ๘ )  จากการขายอสังหาริมทรัพย์ที่บุคคลธรรมดาได้รับนั้น  ไม่ว่าจะเป็นอสังหาริมทรัพย์ที่ได้มาโดยทางการค้าหรือหากำไรหรือไม่ก็ตาม  มาตรา  ๕๐ ( ๕ )  กำหนดให้ผู้จ่ายเงินได้  ไม่ว่าจะเป็นบุคคลธรรมดา หรือบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลหักภาษีเงินได้ไว้  ณ ที่จ่าย ด้วย  โดยกรณีที่ได้อสังหาริมทรัพย์อันเป็นมรดก หรือได้มาจากการให้โดยเสน่หา  ต้องคำนวณภาษีตามวิธีการในมาตรา ๔๘ ( ๔ ) ( ก )  คือ  หักค่าใช้จ่ายเป็นการเหมาร้อยละ  ๕๐  เหลือเท่าใดหารด้วยจำนวนปีที่ถือครอง  แล้วนำไปคำนวณภาษีตามอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา  ได้ผลลัพธ์เท่าใด คูณด้วยจำนวนปีที่ถือครอง  ผลที่ได้คือจำนวนภาษีที่ต้องหักไว้  ณ ที่จ่าย ส่วนกรณีที่ได้อสังหาริมทรัพย์ดังกล่าวมาโดยทางอื่น  ให้คำนวณหักภาษี ณ ที่จ่าย ตามวิธีการในมาตรา  ๔๘ ( ๔ ) ( ข )  คือ  หักค่าใช้จ่ายเป็นการเหมาตามพระราชกฤษฎีกา ซึ่งได้แก่พระราชกฤษฎีกาฯ ( ฉบับที่  ๑๖๕ ) พ.ศ. ๒๕๒๙  ที่กล่าวมาแล้ว และคำนวณภาษีโดยนำจำนวนปีที่ถือครองมาหาร  เหลือเท่าใด คูณด้วยจำนวนปีที่ถือครอง  ผลที่ได้คือจำนวนภาษีที่ต้องหักไว้  ณ ที่จ่าย

          ในกรณีของบุคคลธรรมดาที่ประกอบกิจการค้าอสังหาริมทรัพย์  แม้จะถูกหักภาษีไว้ ณ ที่จ่าย ในขณะจดทะเบียนโอนขายอสังหาริมทรัพย์ ตามมาตรา  ๕๐ ( ๕ )  ก็จะเลือกเสียภาษีตามวิธีการในมาตรา  ๔๘ ( ๔ )  ไม่ได้   แต่จะต้องเสียภาษีเงินได้จากเงินได้พึงประเมินที่ได้รับจริงจากการขายอสังหาริมทรัพย์  และต้องนำค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงมาหัก  ตามความจำเป็นและสมควรโดยนำมาตรา  ๖๕ ทวิ  และ ๖๕  ตรี มาใช้บังคับด้วยโดยอนุโลม  โดยมีหน้าที่ต้องยื่นแบบแสดงรายการเสียภาษีเงินได้ครึ่งปี  ตามมาตรา  ๕๖ ทวิ  ด้วย  และต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะจากรายรับที่ได้รับจากการขายค้าอสังหาริมทรัพย์เป็นทางค้าหรือหากำไรด้วย

                การเลือกเสียภาษีเงินได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ตามมาตรา  ๔๘ ( ๔ ) ( ข ) นี้  หากพิจารณาโดยผิวเผินอาจเข้าใจว่า  เมื่อซื้ออสังหาริมทรัพย์มาแล้วขายไปหลังจากการขายไม่นานจะเสียภาษีเงินได้น้อย  เพราะหักค่าใช้จ่ายเป็นการเหมาได้มาก ทั้งยังคำนวณราคาขายตามราคาประเมินทุนทรัพย์เพื่อเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมตามประมวลกฎหมายที่ดิน  มิได้คำนวณตามราคาขายจริง  แต่อย่าลืมว่า  การขายอสังหาริมทรัพย์ที่ต้องจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม  ที่ได้กระทำภายใน    ปี  นับแต่วันที่ได้อสังหาริมทรัพย์นั้นมา  ถือเป็นการขายอสังหาริมทรัพย์เป็นทางค้าหรือหากำไร  ที่ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ ตามมาตรา ๙๑ / ๒ ( ๖ )  ประกอบพระราชกฤษฎีกา ฯ ( ฉบับที่  ๓๔๒ ) พ.ศ. ๒๕๔๑ มาตรา ๔ ( ๖ ) ซึ่งมีข้อยกเว้นเพียงไม่กี่กรณี  ดังนั้น  เมื่อจะขายอสังหาริมทรัพย์ที่ได้มาโดยทางอื่นที่มิใช้มรดก หรือการให้โดยเสน่หา จึงต้องพิจารณาถึงเรื่องของภาษีธุรกิจเฉพาะด้วย

                มีคำพิพากษาศาลฎีกาเรื่องหนึ่ง ซึ่งอธิบายถึงความแตกต่างของอสังหาริมทรัพย์ที่ขายว่าเป็นกรณีตามมาตรา  ๔๘ ( ๔ ) ( ก )  หรือ มาตรา  ๔๘ ( ๔ ) ( ข ) แห่งประมวลรัษฎากร คือ

                คำพิพากษาศาลฎีกาที่  ๗๓๙๕ / ๒๕๔๔   จำเลยที่    เป็นบิดาและผู้จัดการมรดกของผู้ตาย  ก่อนถึงแก่ความตาย  ผู้ตายได้ฟ้อง อ. กับพวกให้โอนขายที่ดิน    แปลงให้แก่ผู้ตาย  และจำเลยที่    ได้รับอนุญาตให้เข้าเป็นคู่ความแทนที่ผู้ตายในขณะที่คดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกา  ต่อมา  ศาลฎีกาพิพากษาให้ อ. กับพวกโอนที่ดินทั้งสามแปลงให้แก่ผู้ตาย และรับเงินค่าที่ดินจำนวนหนึ่ง  โดยกำหนดให้โจทก์ในคดีดังกล่าวนำเงินไปวางศาลภายใน  ๒๘๐  วัน นับแต่วันอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา   หากไม่วางเงินภายในกำหนดถือว่าผิดสัญญา  และ อ. มีสิทธิริบเงินที่ผู้ตายชำระแล้วทั้งหมด   หาก อ. ไม่ปฏิบัติตามให้ถือคำพิพากษาเป็นการแสดงเจตนาแทน  จำเลยที่  ๑ ในฐานะผู้จัดการมรดกของผู้ตายได้นำเงินไปชำระและจดทะเบียนรับโอนที่ดินทั้งสามแปลงตามคำพิพากษาแล้วจดทะเบียนขายที่ดินทั้งสามแปลงดังกล่าวในวันเดียวกัน  และขายที่ดินแปลงอื่นของผู้ตายอีก    แปลงในเวลาต่อมา   เงินได้จากการขายที่ดินทั้งห้าแปลงดังกล่าว  จึงเป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา  ๔๐ ( ๘ )  แห่งประมวลรัษฎากร  ของกองมรดกของผู้ตายที่ยังมิได้แบ่ง  จำเลยที่    ซึ่งเป็นผู้จัดการมรดกของผู้ตายจึงมีหน้าที่ยื่นแบบแสดงรายการและเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ในชื่อกองบมรดกผู้ตาย   ตามมาตรา  ๕๗  ทวิ วรรคสอง  แห่งประมวลรัษฎากร  เมื่อกองมรดกมีเงินได้ตาม มาตรา  ๔๐ ( ๘ )  จากการขายอสังหาริมทรัพย์  ผู้จ่ายเงินได้จึงมีหน้าที่หักภาษีเงินได้  ณ ที่จ่าย ตามมาตรา  ๕๐ ( ๕ ) ( ก )  โดยคำนวณตามมาตรา  ๔๘ ( ๔ ) ( ก ) สำหรับอสังหาริมทรัพย์อันเป็นมรดก หรืออสังหาริมทรัพย์ที่ได้มาโดยเสน่หา  หรือหักภาษีเงินได้    ที่จ่าย ตามมาตรา  ๕๐ ( ๕ ) ( ข )  โดยคำนวณตามมาตรา  ๔๘ ( ๔ ) ( ข )  สำหรับอสังหาริมทรัพย์ที่ได้มาโดยทางอื่น   แล้วแต่กรณี  แล้วนำส่งต่อเจ้าพนักงานที่ดินผู้รับจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมในขณะที่มีการจดทะเบียน

                สำหรับที่ดิน    แปลง ที่จำเลยที่    ในฐานะผู้จัดการมรดกของผู้ตายจดทะเบียนรับโอนมาตามคำพิพากษาศาลฎีกาแล้วจดทะเบียนขายไปในวันเดียวกัน   ที่ดินทั้งสามแปลงดังกล่าวจึงเป็นอสังหาริมทรัพย์ที่กองมรดกที่ยังมิได้แบ่งกันระหว่างทายาท ได้มาหลังการตายของเจ้ามรดก  เมื่อจำเลยที่    ในฐานะผู้จัดการมรดกขายที่ดินที่กองมรดกได้มาดังกล่าวไป  เงินได้จากการขายที่ดินจึงมิใช่เงินได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์อันเป็นมรดกตามที่ระบุไว้ในมาตรา  ๔๘ ( ๔ ) ( ก ) แห่งประมวลรัษฎากร  ซึ่งต้องเป็นเงินได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ของผู้มีเงินได้อันเป็นมรดก หรือได้รับจากการให้โดยเสน่หา  แต่เป็นเงินได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ที่กองมรดกได้มาโดยทางอื่น ตามมาตรา  ๔๘ ( ๔ ) ( ข )  แห่งประมวลรัษฎากร  ส่วนจำนวนปีที่ถือครองนั้น  เมื่อจำเลยที่    จดทะเบียนรับโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินทั้งสามแปลงดังกล่าวมาเมื่อวันที่  ๑๕  กุมภาพันธ์  ๒๕๓๙  จึงต้องนับจำนวนปีที่ถือครองมาตั้งแต่ปี  ๒๕๓๙  หาใช่นับมาตั้งแต่ปี  ๒๕๓๔  ซึ่งเป็นปีที่ผู้ตามถึงแก่ความตายไม่  การที่เจ้าพนักงานที่ดินคำนวณหักภาษี    ที่จ่าย ของที่ดินทั้งสามแปลงดังกล่าว ตามมาตรา  ๕๐ ( ๕ ) ( ข ) ประกอบกับมาตรา  ๔๘ ( ๔ ) ( ข )  แห่งประมวลรัษฎากร และนับจำนวนปีที่ถือครองจึงถูกต้องแล้ว

                ส่วนที่ดินอีก    แปลงนั้น  เป็นที่ดินที่ผู้ตายซึ่งเป็นเจ้ามรดกมีอยู่แล้วก่อนตาย  เงินได้จากการขายที่ดินดังกล่าวจึงเป็นเงินได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์อันเป็นมรดก ซึ่งต้องคำนวณหักภาษี    ที่จ่าย ตามมาตรา  ๕๐ ( ๕ ) ( ก )  ประกอบ มาตรา  ๔๘ ( ๔ ) ( ก ) แห่งประมวลรัษฎากร

                                ๓ )  กรณีตามมาตรา  ๔๘ ( ๕ )  เป็นเงินได้พึงประเมินจากการจ้างแรงงาน และเงินได้จากการรับทำงานให้ หรือเนื่องจากตำแหน่งงานที่ทำ ตามมาตรา  ๔๐ ( ๑ ) และ ( ๒ )  แห่งประมวลรัษฎากร  ที่นายจ้างจ่ายให้ครั้งเดียวเพราะเหตุออกจากงาน  ตามหลักเกณฑ์  วิธีการ  และเงื่อนไขที่อธิบดีกรมสรรพากรกำหนด  ( ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร  เกี่ยวกับภาษีเงินได้  ( ฉบับที่  ๔๕ )  ) ซึ่งประมวลรัษฎากรกำหนดให้ผู้มีเงินได้ประเภทนี้มีสิทธิเลือกเสียภาษีเงินได้โดยไม่ต้องนำไปรวมคำนวณกับเงินได้อื่น  เนื่องจากเงินได้พึงประเมินตามมาตรา ๔๐ ( ๑ ) และ ( ๒ )  จะนำมาหักค่าใช้จ่ายรวมกันได้น้อยเพียงร้อยละ  ๔๐  แต่ไม่เกิน  ๖๐,๐๐๐  บาท  หากต้องนำเงินได้ที่ได้รับจากนายจ้างที่นายจ้างจ่ายให้ครั้งเดียวเพราะเหตุออกจากงาน  มารวมคำนวณกับเงินได้อื่น จะทำให้มีภาระภาษีจำนวนมาก  เพราะเงินได้ที่ได้รับจากนายจ้างเพราะเหตุออกจากงานดังกล่าวจะมีจำนวนสูง   รัฐประสงค์ที่จะให้ลูกจ้างที่ต้องออกจากงานดังกล่าวใช้เงินก้อนที่ได้รับในการดำรงชีพในขณะที่ไม่มีงานทำ  หรือใช้เป็นทุนในการประกอบอาชีพอื่น  จึงต้องการบรรเทาภาระภาษีสำหรับผู้ที่มีเงินได้ประเภทนี้  โดยให้แยกคำนวณภาษีได้  และมีวิธีคำนวณหักค่าใช้จ่ายเป็นพิเศษสำหรับเงินได้ดังกล่าว  จึงกำหนดไว้ในมาตรา  ๔๘ ( ๕ )  และกำหนดให้นายจ้างที่จ่ายเงินได้ดังกล่าวหักภาษี    ที่จ่ายไว้ ตามมาตรา  ๕๐ ( ๑ ) วรรคสาม โดยให้คำนวณหักภาษีเงินได้ไว้    ที่จ่าย ตามมาตรา  ๔๘ ( ๕ ) 

                ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร  เกี่ยวกับภาษีเงินได้  ( ฉบับที่  ๔๕ )  ข้อ ๑.  กำหนดหลักเกณฑ์ว่า   เงินได้ที่นายจ้างจ่ายให้ครั้งเดียวเมื่อออกจากงาน หมายถึงเงินได้ดังต่อไปนี้

                                ( ก )  เงินได้ที่คำนวณตามหลักเกณฑ์และวิธีการเช่นเดียวกับวิธีการคำนวณบำเหน็จ  ตามกฎหมายบำเหน็จบำนาญข้าราชการ

                                ( ข )  เงินที่จ่ายจากกองทุนตามกฎหมายว่าด้วยกองทุนสำรอบเลี้ยงชีพ  หรือกองทุนตามกฎหมายว่าด้วยบำเหน็จบำนาญข้าราชการ

                                ( ค )  เงินชดเชยตามกฎหมายแรงงาน

                                ( ง )  เงินได้พึงประเมินที่จ่ายให้ครั้งเดียวเพราะเหตุออกจากงานที่มีวิธีการคำนวณแตกต่างไปจากวิธีการตาม ( ก )

                และประกาศอธิบดีกรมสรรพากรดังกล่าว  กำหนดเงื่อนไขที่ผู้มีเงินได้จะเลือกเสียภาษีแยกต่างหากจากเงินได้อื่นไว้    ข้อ คือ

                                ( ก )  เป็นเงินได้ที่จ่ายให้เนื่องจากออกจากงานที่มีระยะเวลาทำงานไม่น้อยกว่า                ปี

                                ( ข )  ในกรณีที่มีการจ่ายเงินได้ตามข้อ    จากผู้จ่ายรายเดียวกันหลายครั้ง  ไม่ว่าจะแบ่งจ่ายจากเงินประเภทเดียวกันหรือหลายประเภท  ผู้มีเงินได้จะเลือกเสียภาษีตามมาตรา  ๔๘ ( ๕ )  แห่งประมวลรัษฎากร  ได้เฉพาะเงินได้ที่จ่ายในปีภาษีแรกที่มีการจ่ายเงินได้ดังกล่าวเท่านั้น

                                ความในวรรคหนึ่ง  มิให้ใช้บังคับแก่กรณีที่มีการจ่ายเงินได้ตามข้อ    ให้แก่ข้าราชการซึ่งได้ลาออกจากราชการ ตามโครงการที่จัดตั้งขึ้นตามมติคณะรัฐมนตรี  ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการให้เงินช่วยเหลือแก่ข้าราชการซึ่งลาออกจากราชการก่อนเกษียณอายุ

                                ( ค )  ผู้มีเงินได้จะเลือกเสียภาษีในกรณีนี้ได้เฉพาะกรณีที่ผู้มีเงินได้ไม่นำเงินได้พึงประเมินดังกล่าวไปรวมคำนวณภาษี ตามมาตรา  ๔๘ ( ๑ ) ( ๒ )  แห่งประมวลรัษฎากร  ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน

                นอกจากนี้  ตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากรดังกล่าวยังกำหนดเงื่อนไขอื่น ๆ อีกหลายประการ สำหรับผู้ที่จะเลือกแยกคำนวณภาษีตามมาตรานี้

                คำพิพากษาศาลฎีกาที่  ๔๓ / ๒๕๔๗  โจทก์ได้รับเงินได้เพราะเหตุออกจากงาน    ประเภท  ประเภทที่    เป็นเงินชดเชยการเลิกจ้าง จำนวน  ๑,๐๒๒,๘๒๕  บาท  ซึ่งเป็นเงินชดเชยตามกฎหมายแรงงานที่ถือว่าเป็นเงินที่นายจ้างจ่ายให้ครั้งเดียวเพราะเหตุออกจากงานตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากร  เกี่ยวกับภาษีเงินได้  ( ฉบับที่  ๔๕ ) ข้อ ๑ ( ค ) โดยนายจ้างจ่ายให้โจทก์ในวันที่  ๓๐  ธันวาคม  ๒๕๔๑  ประเภทที่    เป็นเงินได้ที่จ่ายจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ  จำนวน

๑,๕๒๗,๘๕๕  บาท  โดยจ่ายในวันที่    กุมภาพันธ์  ๒๕๔๒  ซึ่งเป็นเงินที่จ่ายจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ  ตามกฎหมายว่าด้วยกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ  ตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากร  เกี่ยวกับภาษีเงินได้  ( ฉบับที่  ๔๕ ) ข้อ ๑ ( ข )   ผู้จ่ายเงินจำนวนนี้ให้แก่โจทก์คือกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ                   โนวาร์ตีส  ซึ่งเป็นนิติบุคคลต่างหากไม่ใช่นายจ้างของโจทก์เป็นผู้จ่าย  จึงเห็นได้ว่าเงินชดเชยการเลิกจ้างกับเงินที่จ่ายจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ  ผู้จ่ายเงินให้แก่โจทก์ไม่ใช่ผู้จ่ายรายเดียวกัน  จึงไม่เข้าเงื่อนไขที่ผู้มีเงินได้จะเลือกเสียภาษีตามมาตรา  ๔๘ ( ๕  )  แห่งประมวลรัษฎากรได้เฉพาะเงินได้ที่จ่ายในปีภาษีแรกที่มีการจ่ายให้เท่านั้น  ดังนั้น  เมื่อโจทก์ได้รับเงินที่จ่ายจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพในปีภาษี  ๒๕๔๒  ซึ่งเป็นคนละภาษีกับที่โจทก์ได้รับเงินชดเชยการจ้าง  โจทก์จึงชอบที่จะนำเงินได้ที่จากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพโนวาร์ตีส  จำนวน  ๑,๕๒๗,๘๕๕  บาท  ที่ได้รับในปีภาษี  ๒๕๔๒  มาเลือกเสียภาษีแยกต่างหากจากเงินได้อื่น  ตามมาตรา  ๔๘ ( ๕ )  แห่งประมวลรัษฎากรได้ 




ความรู้เกี่ยวกับภาษี

SMEs เสียภาษีสรรพากรอย่างไร ? article
ชี้ช่องประหยัดเงิน (ภาษี) ภ.ง.ด.50 โดยอาจารย์ อมรศักดิ์ พงศ์พศุตม์ article
การชดเชยค่าภาษีอากร-บัตรภาษี article
มนุษย์เงินเดือนเฮครม.อนุมัติลดหย่อนภาษีหักค่าใช้จ่าย60% (มีผลบังคับใช้ในปี 2550) article
การอุทธรณ์ภาษีอากรตามประมวลรัษฎากร article
10 เคล็ดลับการยื่นแบบ ภ.ง.ด.50 article
การคำนวณเงินตราต่างประเทศเป็นเงินตราไทย article
ภาษีป้าย article
ภาษีโรงเรือนและที่ดิน article
ใบลดหนี้ (Credit Note)
ภาระภาษีในการประนอมหนี้ ค่าบริการ
เงื่อนไขในการคำนวณส่วนของ หนี้สูญ เพื่อนำมาหักออกจาก ภาษีขาย
การทำบัญชี ของบุคคลธรรมดา ที่ไม่จด VAT
กิจการร่วมค้า (Joint Venture) หรือ Consortium
Income Tax Guide for foreign Company
เลิกห้างหุ้นส่วนกับภาระภาษี
ภาษีค่าสิทธิ - จากสรรพากรสาส์น
ภาษีซื้อห้ามขอคืน แต่ถือเป็นค่าใช้จ่าย
การเสีย VAT กรณีนำเข้าสินค้ามาขายแบบ 3 เส้า
คลังสินค้าทัณฑ์บน (BONDED WAREHOUSE ) คืออะไร?
เขตปลอดอากร เขตยกเว้นภาษี
ข้อหารือกรมสรรพากร ที่น่าสนใจ
บัญชีอากรแสตมป์ อัตราอากรแสตมป์
การเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาครึ่งปี ( ตาม มาตรา 56 ทวิ)
การคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลครึ่งปี
การเฉลี่ยภาษีซื้อ
Withholding Tax Rates for Royalties under Thailand's DTAs
Withholding Tax Rates for Interest under Thailand's DTAs
การคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาหัก ณ ที่จ่ายตามมาตรา 50 (1) article
คณะบุคคล... อีกหน่วยภาษี ที่ไม่ควรมองข้าม
ภาษีบ้านเช่าครึ่งปี
ภาษีเลี้ยงรับรองปีใหม่
ภาษีค่าน้ำมันรถ
ลดหย่อนดอกเบี้ยเงินกู้ยืมจาก 50,000 เป็น 100,000
มาตรการสนับสนุนการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ + ห้องชุด ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2551
เช่าทรัพย์กับภาษีอากร
สารพัน ปัญหาภาษีสรรพากร - สำหรับกิจการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน
ค่าชดเชยการเลิกจ้าง กับภาระภาษีอากร
ค่าตอบแทนที่ตัวแทนหรือนายหน้า หรือหัวหน้าตัวแทนประกันชีวิตได้รับถือเป็นเงินได้ประเภทใด
ขายสินค้าเกษตรเสียภาษีมูลค่าเพิ่มหรือไม่
ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา กรณีบุคคลต่างด้าวเข้ามาทำงานในประเทศไทย
ภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีรับรู้รายได้เนื่องจากกิจกรรมส่งเสริมการขาย
ภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา กรณีจ่ายค่าน้ำมันรถยนต์แก่พนักงาน
ภาษีเงินได้นิติบุคคล กรณีผลเสียหายจากการประกอบกิจการ
ภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีการประกอบกิจการแนะแนวการศึกษาต่อต่างประเทศ
ภาษีเงินได้นิติบุคคล และภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีเจ้าหนี้การค้าต่างประเทศ
ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย กรณีรายได้จากการให้บริการป้ายโฆษณา
ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย และภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีการจ่ายเงินไปต่างประเทศ
ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย และภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีการให้บริการที่กระทำในต่างประเทศและได้มีการใช้บริการนั้นในราชอาณาจักร
ภาษีเงินได้นิติบุคคล และภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย กรณีการจ่ายเงินค่าซ่อมเครื่องจักรและ ค่าที่ปรึกษาไปต่างประเทศ
ภาษีเงินได้นิติบุคคล กรณีการจ่ายค่าลิขสิทธิ์และค่าบริการอื่นให้แก่บริษัทต่างประเทศที่มิได้ประกอบกิจการในประเทศไทย
ภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีการเสียภาษีของนิติบุคคลอาคารชุด
ปัญหา ของขวัญกับการเสียภาษี
ความรู้เกี่ยวกับการยื่นแบบ ภ.ง.ด.94
ปัญหา ค่าซื้อหน่วยลงทุน RMF และ LTF
เงินสนับสนุนการศึกษาและเงินบริจาค
สารพันปัญหา "ค่าลดหย่อน"
การจำหน่ายหนี้สูญจากบัญชีลูกหนี้ ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 374 (พ.ศ.2564)
เงินได้ที่ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้
รายจ่ายอันมีลักษณะเป็นการลงทุน
การคิดค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาทรัพย์สินตามประมวลรัษฎากร
ภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีการขายบัตรแลกรับบริการล่วงหน้า
พระราชกฤษฎีกา ลดอัตราและยกเว้นรัษฎากร ปี 2555
การเสียภาษีเงินได้และภาษีมูลค่าเพิ่ม ของนักแสดงสาธารณะ
คำชี้แจงกรมสรรพากร กรณีการยื่นแบบเสียภาษีของสามีและภรรยา ปี 2555
ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา กรณีขายอสังหาริมทรัพย์ป็นทางค้าหรือหากำไร
สรุปอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลปี 2555-2558
มาตรการบัญชีเล่มเดียวและการยกเว้นและลดอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับ SMEs
สรุปคำชี้แจงการยกเว้นจากการตรวจสอบภาษีอากรย้อนหลัง
บัญชี IFRS for SMEs กับภาษี ตอน รายจ่ายในการวิจัยและพัฒนาของ SMEs
ค่าใช้จ่าย R&D หักทางภาษีได้ 3 เท่า!!!
ความรับผิดของผู้จ่ายเงินได้ เมื่อมิได้หักภาษี ณ ที่จ่าย
ฎีกาภาษี : การขีดฆ่าอากรแสตมป์
ภาษีการรับมรดก
เครื่องมือช่วยคำนวณรายการทางบัญชีเป็นรายการทางภาษี
วิธีการประมาณการกําไรสทธิ ภงด.51 article
ภาษีหัก ณ ที่จ่าย กับกิจการขายของ Online article
เงินได้พึงประเมินของผู้ประกอบโรคศิลปะ-แพทย์(หมอ) article
ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง article
คำสั่งกรมสรรพากร. ที่ป.161/2566. เรื่อง การเสียภาษีเงินได้ตามมาตรา 41 วรรคสอง article



Copyright © 2010 All Rights Reserved.
บริษัท สำนักงานจรัสทนายความและการบัญชี จำกัด เลขที่ 334 หมู่ที่ 9 ซอยสำโรงเหนือ 21 ถนนสุขุมวิท 113 ตำบลสำโรงเหนือ อำเภอเมืองสมุทรปราการ 10270 โทรศัพท์ 081-802-2731 , 02-349-4238 โทรสาร 02-349-4239 Email :jarat_inkong@yahoo.com Website : http://www.jarataccountingandlaw.com ผู้ให้การสนับสนุน จัดทำเว็บ ออกแบบเว็บ โปรโมทเว็บ เว็บดีไซน์ เว็บโฮสติ้ง by Tismarketing.com รวมเวบไซต์:
Enter Songtoday.com and Vote for this site !!!
http://www.marinerthai.com/topsite/ http://www.media4stream.com/topsites/ ท่องเที่ยว 76 จังหวัด video clip,คลิปหลุดดารา,blog,บล็อก โปรโมทเว็บ software download เขียนบล็อก สถานที่ท่องเที่ยว ทิปดีดี อาชีพเสริม ท่องเที่ยวไทย สมุนไพร โปรโมทสินค้าฟรี Celebrity Biography free software thailand travel Thailand hotels Online shopping and reviews world movie submit articles Travel Classifieds amazon compare prices web directory free wallpaper add site Electronic specifications โพสสุขสันต์ ลงประกาศฟรี ลงโฆษณาฟรี