ช่วงเวลาต่อจากนี้ไปจนถึงสิ้นเดือนพฤษภาคมเป็นช่วงเวลาที่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วน นิติบุคคลต้องยื่นงบดุลให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ และยื่นแบบ ภ.ง.ด.50 เพื่อเสียภาษีเงินนิติบุคคลให้กรมสรรพากร ซึ่งในหลายปีที่ผ่านมามักปรากฏว่ามีบางบริษัทห้างร้านได้ ว่าจ้างบุคคลอื่นเป็นผู้ทำบัญชีตามกฎหมายบัญชี รายงานตามประมวลรัษฎากร และให้ผู้รับจ้างยื่นแบบแสดงรายการภาษี พร้อมทั้งใช้ผู้ตรวจสอบบัญชี โดยจากการตรวจพบว่า มีหลายกรณีที่ ผู้รับจ้างไม่ได้จัดทำบัญชี และยื่นเสียภาษีให้ถูกต้อง ครบถ้วน โดยผู้ประกอบการผู้ว่าจ้างอาจ ไม่รู้ถึงความผิดพลาดนั้น ๆ แต่ต้องก้มหน้ารับ (กรรม) ภาระภาษีและค่าปรับเงินเพิ่มเป็นจำนวนมาก มาในปีนี้ เพื่อเป็นการป้องกันปัญหาประเด็นความผิดที่เกิดขึ้นในลักษณะดังกล่าว กรมสรรพากรจึงขอเรียนเตือนให้ท่านผู้ประกอบการใช้ความระมัดระวังและพยายามติดตามตรวจตราในการจัดทำบัญชีและผู้ตรวจสอบและรับรองบัญชี ดังนี้
1.เลือกใช้บริการจากผู้รับจ้างทำบัญชีและผู้สอบบัญชีที่มีการปฏิบัติงานด้วยความรับผิดชอบสูง
2.เรียกเอกสารพร้อมสมุดบัญชีและรายงานมาตรวจดูทุกเดือนว่ามีการจัดทำบัญชีเป็น ปัจจุบันหรือไม่ ใช้เอกสารหลักฐานที่ถูกต้อง ครบถ้วน และจัดเก็บเอกสารดังกล่าวไว้ ณ สถาน ประกอบการ
3.หากมีการชำระภาษีอากรใด ๆ ให้ เรียกดูต้นฉบับใบเสร็จรับเงินค่าภาษีอากรที่ออกโดยกรมสรรพากร และสำเนาแบบแสดงรายการภาษี พร้อมทั้งงบการเงินจากผู้รับจ้างทำบัญชี และจัดเก็บไว้ ณ สถานประกอบการทุกครั้ง
4.ในการยื่นแบบรายการภาษีเงินได้นิติบุคคลประจำปี (ภ.ง.ด.50) ผู้ประกอบการควรตรวจดูรายการที่ต้องแจ้งในแบบแจ้งข้อความของกรรมการหรือผู้เป็นหุ้นส่วนหรือผู้จัดการให้ถูกต้องตามความเป็นจริง
5.ผู้ประกอบการพึงตรวจดูว่าไม่มีการใช้ใบกำกับภาษีซื้อที่ผู้ประกอบการไม่ได้มีการซื้อสินค้าหรือใช้บริการจริงในการลงบัญชีและรายงานตามประมวลรัษฎากร
6. ตรวจสอบมูลค่าสินค้าคงเหลือปลายงวดให้ตรงกับมูลค่าที่มีอยู่จริงและตรงตามรายงานสินค้าและวัตถุดิบ.
สุเทพ พงษ์พิทักษ์--จบ-- --เดลินิวส์