ช่วงที่ผ่านมา มีหลายท่านถามว่า "ได้ยินว่า เงินที่นำมาซื้อหน่วยลงทุนของกองทุนรวมหุ้นระยะยาว หรือ LTF จะนำมาหักลดหย่อนภาษี ได้จนถึงปีหน้า คือ ปี2550 เท่านั้นหรือ????"
ข้อเท็จจริง คือ
1.DEADLINE เรื่อง 30 มิถุนายน 2550 เป็นระยะเวลาสิ้นสุดที่ บลจ. ต่างๆ จะตั้งกองทุน LTF กองใหม่ๆ ได้
รายละเอียดก็คือ ถ้า บลจ. ต่างๆ จะจัดตั้งกองทุน LTF กองใหม่ๆ ขึ้น ต้องทำให้เรียบร้อยภายในวันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2550 ข้อนี้เป็นไปตามที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนดไว้ค่ะ ซึ่งเป็นกฎหมายที่ออกมาตั้งแต่ปี 2547 แล้ว (กฎหมายกำหนดว่า บริษัทจัดการกองทุนรวม ต้องนำเงินที่ได้จากการจำหน่ายหน่วยลงทุนของกองทุนรวมหุ้นระยะยาว มาจดทะเบียนเป็นกองทุนรวมต่อสำนักงาน ก.ล.ต. ภายในวันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2550 )
ดังนั้น DEADLINE เรื่อง 30 มิถุนายน 2550 จริงๆ เป็นเรื่องของ บลจ. ต่างๆ ในการจัดตั้ง LTF กองทุนใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นนอกเหนือจากที่มีอยู่ในปัจจุบันกว่า 30 กองทุน ภายใต้การจัดการของ 18 บลจ.
ปี 2550 จึงไม่ใช่ กำหนดระยะเวลาสิ้นสุดที่ผู้ลงทุนจะนำค่าซื้อ LTF ไปหักภาษีเงินได้
2.ผู้ลงทุนใน LTF สามารถนำค่าซื้อหน่วยลงทุนของ LTF ไปหักลดหย่อนภาษีได้ถึง ปี2559
สรุป คือ ถ้าท่านผู้ลงทุน ลงทุนตามเกณฑ์ของ LTF อย่างถูกต้อง ก็ยังสามารถนำเงินค่าซื้อ LTF ไปหักลดหย่อนภาษีได้ โดยลงทุนซื้อ LTF ในปีใด ก็นำไปหักลดหย่อนภาษีได้ เฉพาะปีที่ซื้อเท่านั้น ทำอย่างนี้ได้เรื่อยไป จนถึงปี2559 ค่ะ และจะลงทุนกับ LTF กองใดๆ ของ บลจ.ใดๆ ก็ได้สิทธิประโยชน์ในการหักลดหย่อนภาษีตามที่กฎหมายกำหนดเหมือนกัน
และอย่าลืมว่า เงื่อนไขข้อหนึ่งที่กฎหมายกำหนด คือผู้ลงทุนต้องถือหน่วยลงทุนของ LTF ที่ซื้อแต่ละยอดนั้นไว้ไม่น้อยกว่า 5 ปีปฏิทิน โดยในปีสุดท้าย คือ ปี2559 ที่เราจะได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีของ LTF นี้ ผู้ลงทุนที่ซื้อหน่วยลงทุนในปี2559 ก็ต้องถือหน่วยลงทุนยอดที่ซื้อในปี2559 นี้ไปอีก 5 ปีปฏิทิน คือ ถือไปจนถึงปี2563 จึงจะถือว่าปฏิบัติได้ตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด
อย่างไรก็ตาม การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและคู่มือภาษีก่อนการตัดสินใจลงทุน