ปัญหาเกี่ยวกับการรายงานการสอบบัญชี |
กรณีถูกจำกัดขอบเขต
1. |
หากจะรายงานว่าไม่แสดงความเห็นต่อสินค้าคงเหลือเนื่องจากไม่ได้ตรวจนับทำให้ไม่สามารถแสดงความเห็นต่อทั้งงบได้ ไม่ทราบบัญชีอื่นที่ไม่ใช่สินค้าคงเหลือ จำเป็นต้องตรวจอีกหรือไม่ |
|
แนวคำตอบ
การรายงานของผู้สอบบัญชีรับอนุญาต กรณีที่ไม่แสดงความเห็น จะเพิ่ม วรรคอธิบายการถูกจำกัดขอบเขตการตรวจสอบ ปัญหาต่อการดำเนินงานต่อเนื่องของกิจการ หรือมีความไม่แน่นอนอื่น ต่อท้ายวรรคขอบเขต และการไม่แสดงความเห็นจะอ้างอิงถึงวรรคอธิบายนั้น ๆ โดยถ้าสินค้าคงเหลือมีสาระสำคัญก็รายงานมีเงื่อนไขเฉพาะสินค้าคงเหลือแต่ถ้ามีสาระสำคัญมาก ผู้สอบบัญชีควรไม่แสดงความเห็นต่อรายการทั้งหมดในงบการเงิน อย่างไรก็ตามบัญชีอื่นที่ไม่ใช่สินค้าคงเหลือผู้สอบบัญชีจำเป็นต้องตรวจสอบด้วย |
2. |
กรณีไม่มีบัญชีและเอกสารที่ต้องใช้ประกอบการลงบัญชีให้ตรวจสอบหรือมีแต่ไม่ครบถ้วน ทำให้ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตตัดสินใจไม่แสดงความเห็นต่องบการเงิน ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตจะเขียนรายงานการสอบบัญชีอย่างไร |
|
แนวคำตอบ
รายงานการสอบบัญชี ดังนี้ (ดูหมายเหตุ)
(วรรคนำ)
ข้าพเจ้าได้รับการแต่งตั้งให้เข้าทำการตรวจสอบงบดุล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2544 และงบกำไรขาดทุนสำหรับปีสิ้นสุดวันเดียวกันของบริษัท กขค จำกัด ซึ่งผู้บริหารของกิจการเป็นผู้รับผิดชอบต่อความถูกต้องและครบถ้วนของข้อมูลในงบการเงินเหล่านี้
(วรรคขอบเขต-ไม่ต้องเขียน)
หมายเหตุ
แนวการเขียนรายงานการสอบบัญชีที่ให้ไว้ในที่นี้ ตั้งแต่ข้อ 2 กรณีถูกจำกัดขอบเขต จนถึงข้อ 3 กรณีถูกจำกัดขอบเขตและไม่ปฏิบัติตามหลักการบัญชี คัดลอกมาจากตัวอย่างรายงานของผู้สอบบัญชีรับอนุญาต ซึ่งจัดทำโดยสมาคมนักบัญชีและผู้สอบบัญชีรับอนุญาตแห่งประเทศไทย
(วรรคอธิบาย)
ผู้บริหารของบริษัทได้ชี้แจงว่า เอกสารประกอบการลงบัญชีของบริษัทส่วนใหญ่ได้สูญหาย ในสถานการณ์เช่นนี้ ข้าพเจ้าจึงไม่สามารถ ตรวจสอบงบการเงินของบริษัทตามมาตรฐานการสอบบัญชีที่รับรองทั่วไปได้ ดังนั้น ข้าพเจ้าจึงไม่สามารถแสดงความเห็นต่องบการเงินของบริษัท สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2544 |
3. |
ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตไม่สามารถตรวจนับเงินสดต้นปีและสิ้นปี และเงินสดมีสาระสำคัญต่องบการเงิน แต่ตรวจรายการอื่น ๆ ได้จนเป็นที่พอใจ จะเขียนรายงานการสอบบัญชีอย่างไร |
|
แนวคำตอบ
รายงานการสอบบัญชี ดังนี้
(วรรคนำ)
ข้าพเจ้าได้ตรวจสอบงบดุล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2544 และงบกำไรขาดทุนสำหรับปีสิ้นสุดวันเดียวกันของบริษัท กขค จำกัด ซึ่งผู้บริหารของกิจการเป็นผู้รับผิดชอบต่อความถูกต้องและครบถ้วนของข้อมูลใน งบการเงินเหล่านี้ ส่วนข้าพเจ้าเป็นผู้รับผิดชอบในการแสดงความเห็นต่อ งบการเงินดังกล่าว จากผลการตรวจสอบของข้าพเจ้า
(วรรคขอบเขต)
ยกเว้นที่กล่าวในวรรคที่สาม ข้าพเจ้าได้ปฏิบัติงานตรวจสอบตามมาตรฐาน
(ข้อความปกติจนจบวรรค)
(วรรคอธิบาย)
ข้าพเจ้าไม่ได้ตรวจนับเงินสดยกมาต้นปี 2544 จำนวน X บาท และเงินสดคงเหลือสิ้นปีตามที่แสดงในงบดุล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2544 จำนวน Y บาท เนื่องจาก ณ วันนั้นข้าพเจ้ายังมิได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้สอบบัญชีของบริษัท โดยข้าพเจ้าได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้สอบบัญชีของบริษัท เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2545 และข้าพเจ้าไม่สามารถใช้วิธีการ ตรวจสอบอื่นให้เป็นที่พอใจเกี่ยวกับยอดเงินสดดังกล่าว
(วรรคความเห็น)
ข้าพเจ้าเห็นว่ายกเว้นผลของการปรับปรุงงบการเงิน ซึ่งอาจจำเป็นถ้าข้าพเจ้าสามารถตรวจสอบให้เป็นที่พอใจในจำนวนเงินสดคงเหลือตามที่อธิบายในวรรคที่สาม งบการเงินข้างต้นแสดงฐานะการเงิน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2544 และผลการดำเนินงานสำหรับปีสิ้นสุดวันเดียวกันของบริษัท กขค จำกัด โดยถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไป |
4. |
ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตไม่สามารถเข้าสังเกตการณ์การตรวจนับสินค้าคงเหลือทั้งต้นงวดและปลายงวด ซึ่งมีสาระสำคัญ แต่ตรวจรายการอื่น ๆ ได้จนเป็นที่พอใจ จะเขียนรายงานการสอบบัญชีอย่างไร |
|
แนวคำตอบ
รายงานการสอบบัญชี ดังนี้
วรรคนำ-เขียนแบบปกติ
(วรรคขอบเขต)
ยกเว้นที่กล่าวในวรรคที่สาม ข้าพเจ้าได้ปฏิบัติงานตรวจสอบตามมาตรฐาน
(ข้อความปกติจนจบวรรค)
(วรรคอธิบาย)
ข้าพเจ้าไม่ได้เข้าสังเกตการณ์การตรวจนับสินค้าคงเหลือต้นงวดตามที่แสดงในงบการเงิน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2543 จำนวน X บาท และสินค้าคงเหลือ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2544 จำนวน Y บาท เนื่องจาก ณ วันนั้นข้าพเจ้ายังไม่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้สอบบัญชีของกิจการ โดยข้าพเจ้าได้รับการแต่งตั้งเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2545 และข้าพเจ้าไม่สามารถใช้วิธีการตรวจสอบอื่นให้เป็นที่พอใจในปริมาณของสินค้าคงเหลือดังกล่าวได้ ซึ่งมูลค่าของสินค้าคงเหลือทั้งต้นงวด และสิ้นงวดนั้นมีสาระสำคัญต่องบการเงิน
(วรรคความเห็น)
ข้าพเจ้าเห็นว่า ยกเว้นผลของการปรับปรุงงบการเงินที่อาจจำเป็น ถ้าข้าพเจ้าสามารถตรวจสอบให้เป็นที่พอใจเกี่ยวกับสินค้าคงเหลือต้นงวดและปลายงวดได้ ตามที่อธิบายในวรรคที่สาม งบการเงินข้างต้นแสดง
(ข้อความปกติจนจบวรรค) |
5. |
ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตไม่สามารถเข้าสังเกตการณ์ตรวจนับสินค้าคงเหลือทั้งต้นงวด และปลายงวด แต่สินค้าคงเหลือมีสาระสำคัญมาก จึงไม่แสดงความเห็น จะเขียนรายงานการสอบบัญชีอย่างไร |
|
แนวคำตอบ
รายงานการสอบบัญชี ดังนี้
(วรรคนำ)
ข้าพเจ้าได้รับการแต่งตั้งให้เข้าทำการตรวจสอบงบดุล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2544 และงบกำไรขาดทุนสำหรับปีสิ้นสุดวันเดียวกันของบริษัท กขค จำกัดซึ่งผู้บริหารของกิจการเป็นผู้รับผิดชอบต่อความถูกต้องและครบถ้วนของข้อมูลในงบการเงินเหล่านี้
(วรรคขอบเขต-ไม่ต้องเขียน)
(วรรคอธิบาย)
ข้าพเจ้าไม่ได้เข้าสังเกตการณ์การตรวจนับสินค้าคงเหลือต้นงวดตามที่แสดงในงบการเงิน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2543 จำนวน X บาท และสินค้าคงเหลือ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2544 จำนวน Y บาท เนื่องจาก ณ วันนั้นข้าพเจ้ายังไม่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้สอบบัญชีของกิจการ โดยข้าพเจ้าได้รับการแต่งตั้งเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2545 และข้าพเจ้าไม่สามารถใช้วิธีการตรวจสอบอื่นให้เป็นที่พอใจในปริมาณของสินค้าคงเหลือดังกล่าวได้ซึ่งมูลค่าสินค้าคงเหลือทั้งต้นงวดและสิ้นงวดนั้น มีสาระสำคัญอย่างมากต่อฐานะการเงิน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2544และผลการดำเนินงานสำหรับปีสิ้นสุดวันเดียวกันของบริษัท
(วรรคความเห็น)
เนื่องจากข้าพเจ้าไม่สามารถตรวจสอบให้เป็นที่พอใจเกี่ยวกับสินค้าคงเหลือต้นงวดและปลายงวด ซึ่งมีสาระสำคัญมากตามที่อธิบายในวรรคที่สอง ข้าพเจ้าจึงไม่อาจแสดงความเห็นต่องบการเงินของบริษัท กขค จำกัด สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2544
|
6. |
ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตไม่สามารถเข้าสังเกตการณ์การตรวจนับสินค้าคงเหลือต้นงวดและปลายงวด แต่สามารถใช้วิธีการตรวจสอบอื่นให้พอใจเกี่ยวกับสินค้าคงเหลือ ปลายงวด สินค้าคงเหลือต้นงวดมีสาระสำคัญมาก จึงตัดสินใจไม่แสดงความเห็นต่องบกำไรขาดทุนแต่สามารถแสดงความเห็นอย่างไม่มีเงื่อนไขต่องบดุลได้ จะเขียน รายงานการสอบบัญชีอย่างไร |
|
แนวคำตอบ
รายงานการสอบบัญชี ดังนี้
(วรรคนำ)
ข้าพเจ้าได้ตรวจสอบงบดุล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2544 และได้รับแต่งตั้งให้ตรวจสอบงบกำไรขาดทุน สำหรับปีสิ้นสุดวันเดียวกันของบริษัท กขค จำกัด ซึ่งผู้บริหารของกิจการเป็นผู้รับผิดชอบต่อความถูกต้องและครบถ้วนของข้อมูลในงบการเงินเหล่านี้ ส่วนข้าพเจ้าเป็นผู้รับผิดชอบในการแสดงความเห็นต่องบการเงินดังกล่าว จากผลการตรวจสอบของข้าพเจ้า
(วรรคขอบเขต)
นอกจากที่กล่าวในวรรคที่สาม ข้าพเจ้าได้ปฏิบัติงานตรวจสอบตาม(ข้อความปกติจนจบวรรค)
(วรรคอธิบาย)
ข้าพเจ้าไม่ได้เข้าสังเกตการณ์การตรวจนับสินค้าคงเหลือ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2543 ซึ่งเป็นสินค้าต้นงวดของงบการเงิน ปี 2544 ทั้งนี้เนื่องจาก ณ วันนั้นข้าพเจ้ายังไม่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้สอบบัญชีของ |
7. |
ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตไม่สามารถยืนยันยอดลูกหนี้หรือเจ้าหนี้คงเหลือสิ้นปี ซึ่งมีสาระสำคัญต่องบการเงิน จึงตัดสินใจแสดงความเห็นอย่างมีเงื่อนไข จะเขียนรายงานการสอบบัญชีอย่างไร |
|
แนวคำตอบ
รายงานการสอบบัญชี ดังนี้
วรรคนำ-ข้อความปกติ
(วรรคขอบเขต)
ยกเว้นที่กล่าวในวรรคที่สามข้าพเจ้าได้ปฏิบัติงานตรวจสอบตาม(ข้อความปกติจนจบวรรค)
(วรรคอธิบาย)
ข้าพเจ้าไม่สามารถขอคำยืนยันยอดลูกหนี้การค้า จำนวน
..บาท ลูกหนี้เงินให้กู้ยืม จำนวน
..บาท และเจ้าหนี้เงินกู้ จำนวน
..บาท ที่แสดงในงบดุล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2544 เนื่องจากหลักฐานทางบัญชีมีรายละเอียดไม่เพียงพอว่าลูกหนี้และเจ้าหนี้ดังกล่าวเป็นใคร และเป็นหนี้จำนวนเท่าใด และข้าพเจ้าไม่สามารถใช้วิธีการตรวจสอบอื่นให้เป็นที่ พอใจเกี่ยวกับยอดลูกหนี้ และเจ้าหนี้ดังกล่าวได้
(วรรคความเห็น)
กิจการและข้าพเจ้าไม่สามารถใช้วิธีการตรวจสอบอื่นใด เพื่อให้ได้หลักฐานที่เพียงพอเกี่ยวกับปริมาณของสินค้าคงเหลือดังกล่าวได้ ซึ่งมูลค่าของสินค้าคงเหลือต้นงวดนั้น มีสาระสำคัญมากต่อการวัดผลการดำเนินงานของปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2544
(วรรคความเห็น)
เนื่องจากข้าพเจ้าไม่สามารถตรวจสอบให้ได้หลักฐานที่เพียงพอเกี่ยวกับสินค้าคงเหลือต้นงวดซึ่งมีสาระสำคัญมาก ตามที่อธิบายในวรรคที่สาม ข้าพเจ้าจึงไม่อาจแสดงความเห็นต่องบกำไรขาดทุนสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2544อย่างไรก็ตามข้าพเจ้าเห็นว่างบดุลที่กล่าวในวรรคแรกแสดงฐานะการเงิน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2544 ของบริษัท กขค จำกัด โดยถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไป
ข้าพเจ้าเห็นว่ายกเว้นผลของรายการปรับปรุงงบการเงินที่อาจจำเป็น ถ้าข้าพเจ้าสามารถตรวจสอบให้เป็นที่พอใจเกี่ยวกับกับยอดลูกหนี้การค้าและลูกหนี้เงินให้กู้ยืมและเจ้าหนี้เงินกู้ ตามที่อธิบายในวรรคที่สามงบการเงินข้างต้นแสดงฐานะการเงิน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2544 และผลการดำเนินงานสำหรับปีสิ้นสุดวันเดียวกันของบริษัท กขค จำกัด โดยถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไป |
8. |
กิจการบันทึกรายการเงินสดและรายการบัญชีเงินฝากธนาคารกระแสรายวันปนกันจนไม่สามารถแยกออกจากกันได้ ทำให้ไม่สามารถตรวจสอบให้แน่ใจในประเด็นต่าง ๆ(ขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริง) ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตจะเขียนรายงานการสอบบัญชีอย่างไร |
|
แนวคำตอบ
รายงานการสอบบัญชี ดังนี้
ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตตัดสินใจรายงานอย่างมีเงื่อนไขหรือไม่แสดงความเห็นขึ้นอยู่กับสาระสำคัญของรายการที่ไม่สามารถตรวจสอบให้พอใจ โดย วรรคอธิบายอาจพิจารณาเขียนดังนี้ บริษัทได้บันทึกรายการบัญชีที่เกี่ยวกับการรับเงินและจ่ายเงินที่เป็นเงินสดและที่ผ่านบัญชีเงินฝากธนาคารประเภทกระแสรายวันปนกันโดยไม่แยกว่ารายการใดเป็นเงินสดรายการใด้ผ่านบัญชีกระแสรายวัน ในสถานการณ์เช่นนี้ข้าพเจ้าจึงไม่สามารถตรวจสอบให้เป็นที่พอใจว่า (อธิบายถึงรายการและประเด็นที่ไม่สามารถตรวจสอบให้พอใจ) |
9. |
ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตไม่สามารถหาหลักฐานที่เพียงพอเกี่ยวกับยอดขาย กรณีนี้จะเขียนรายงานการสอบบัญชีอย่างไร |
|
แนวคำตอบ
รายงานการสอบบัญชี ดังนี้
แสดงความเห็นอย่างมีเงื่อนไขหรือไม่แสดงความเห็นขึ้นอยู่กับสาระสำคัญของรายการที่ไม่สามารถตรวจสอบให้เป็นที่พอใจ โดย วรรคอธิบายอาจพิจารณาเขียนดังนี้
ข้าพเจ้าไม่สามารถตรวจสอบให้ได้มาซึ่งหลักฐานที่เพียงพอเกี่ยวกับยอดขายที่แสดงในกำไรขาดทุน สำหรับปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2544 ทั้งนี้ เนื่องจากได้พบเอกสารหลักฐานเกี่ยวกับการขายสินค้าจำนวนหนึ่งของปี 2544 ซึ่งบริษัทมิได้บันทึกบัญชีไว้ และมีหลักฐานอื่น ๆ ที่ชี้ให้เห็นว่า บริษัทบันทึกรายการขายไว้ไม่ครบถ้วน แต่ข้าพเจ้าไม่สามารถตรวจสอบให้พอใจได้ว่ารายการขายทั้งหมดที่ไม่ได้บันทึกบัญชีมีจำนวนเงินเท่าใด |
10. |
ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตไม่สามารถตรวจสอบให้เป็นที่พอใจเกี่ยวกับยอดขายและต้นทุนขาย เนื่องจากผลการวิเคราะห์อัตรากำไรขั้นต้นแสดงอัตราที่ผิดปกติอย่างมากโดยไม่อาจอธิบายได้ กรณีนี้จะเขียนรายงานการสอบบัญชีอย่างไร |
|
แนวคำตอบ
รายงานการสอบบัญชี ดังนี้
แสดงความเห็นอย่างมีเงื่อนไขหรือไม่แสดงความเห็นขึ้นอยู่กับสาระสำคัญ ของรายการที่ไม่สามารถตรวจสอบให้เป็นที่พอใจ โดย วรรคอธิบายอาจพิจารณาเขียน ดังนี้
ข้าพเจ้าไม่สามารถตรวจสอบให้ได้หลักฐานที่เพียงพอเกี่ยวกับยอดขาย และต้นทุนขายที่แสดงในงบกำไรขาดทุน จำนวน
บาท และ
บาทตามลำดับ เนื่องจากผลการวิเคราะห์อัตรากำไรขั้นต้นชี้ให้เห็นว่า อัตรากำไรขั้นต้นที่คำนวณจากงบการเงินเท่ากับ 2% ในขณะที่ กิจการกำหนดราคาขายสินค้าโดยเฉลี่ยให้มีกำไรขั้นต้น ระหว่าง 20-30% ดังนั้น ยอดขาย/หรือต้นทุนขายอาจขัดต่อข้อเท็จจริงอย่างเป็นสาระสำคัญ อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารของกิจการไม่อาจให้คำอธิบายถึงสาเหตุที่อัตรากำไรขั้นต้นมีความแตกต่าง |
11. |
ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตขอบเขตถูกจำกัดใน 2 เรื่อง คือ ไม่ได้ตรวจนับเงินสดยกมา ต้นปี และปลายปี และไม่สามารถยืนยันยอดลูกหนี้และเจ้าหนี้คงเหลือสิ้นปี ทำให้ ไม่สามารถแสดงความเห็นต่องบการเงิน จะเขียนรายงานการสอบบัญชีอย่างไร |
|
แนวคำตอบ
รายงานการสอบบัญชี ดังนี้
(วรรคนำ)
ข้าพเจ้าได้รับการแต่งตั้งให้เข้าทำการตรวจสอบงบดุล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2544 และงบกำไรขาดทุน สำหรับปีสิ้นสุดวันเดียวกันของบริษัท กขค จำกัด ซึ่งผู้บริหารของกิจการเป็นผู้รับผิดชอบต่อความถูกต้องและครบถ้วนของข้อมูลในงบการเงินเหล่านี้
(วรรคขอบเขต-ไม่ต้องเขียน)
(วรรคอธิบาย)
ข้าพเจ้าไม่ได้ตรวจนับเงินสดยกมาต้นปี 2544 จำนวน
บาท และเงินสดคงเหลือสิ้นปีตามที่แสดงในงบดุล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2544 จำนวน
บาท เนื่องจาก ณ วันนั้นข้าพเจ้ายังมิได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้สอบบัญชีของบริษัท โดยข้าพเจ้าได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้สอบบัญชีของบริษัทเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2545 และข้าพเจ้าไม่สามารถใช้วิธีการตรวจสอบอื่นให้เป็นที่พอใจเกี่ยวกับยอดเงินสดดังกล่าว
(วรรคอธิบาย)
ข้าพเจ้าไม่สามารถขอคำยืนยันยอดลูกหนี้การค้า จำนวน
..บาท ลูกหนี้เงินให้กู้ยืม จำนวน
..บาทและเจ้าหนี้เงินกู้ จำนวน
..บาท ที่แสดงในงบดุล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2544 เนื่องจากหลักฐานทางบัญชีมีรายละเอียดไม่เพียงพอว่าลูกหนี้และเจ้าหนี้ดังกล่าวเป็นใครและเป็นหนี้จำนวนเท่าใด และข้าพเจ้าไม่สามารถใช้วิธีการตรวจสอบอื่นให้เป็นที่พอใจเกี่ยวกับยอดลูกหนี้ และเจ้าหนี้ดังกล่าวได้
(วรรคความเห็น)
เนื่องจากข้าพเจ้าไม่สามารถตรวจสอบให้ได้หลักฐานที่เพียงพอเกี่ยวกับรายการต่างๆตามที่อธิบายในวรรคที่สองและสาม ขอบเขตการตรวจสอบของข้าพเจ้าจึงไม่เพียงพอเพื่อให้
ข้าพเจ้าสามารถแสดงความเห็นต่องบการเงิน ดังนั้น ข้าพเจ้าจึงไม่แสดงความเห็นต่องบการเงินสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2544 ของบริษัท กขค จำกัด |
กรณีไม่ปฏิบัติตามหลักการบัญชี
1. |
ไม่บันทึกที่ดิน ซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของกิจการและสินทรัพย์อื่นๆบางรายการ ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตจะเขียนรายงานการสอบบัญชีอย่างไร |
|
แนวคำตอบ
รายงานการสอบบัญชี ดังนี้
วรรคนำและวรรคขอบเขตข้อความปกติ
(วรรคอธิบาย)
บริษัทมิได้บันทึกที่ดินแปลงหนึ่ง ซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์ของกิจการตลอดจนสินทรัพย์อื่นได้แก่(ระบุประเภท)และ
(ซึ่งมีอยู่ที่บริษัทและผู้บริหารชี้แจงว่าเป็นสินทรัพย์ของบริษัท)ไว้ในบัญชีเป็นผลให้งบการเงินของกิจการแสดงสินทรัพย์และรายการอื่นที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์เหล่านั้นไม่ถูกต้องและครบถ้วน ที่ดินดังกล่าวมีราคาทุน
.บาทตามหลักฐานสัญญาการซื้อขาย ส่วนสินทรัพย์อื่นดังกล่าวไม่ปรากฏหลักฐานการซื้อแต่อาจมีมูลค่าที่เป็นสาระสำคัญต่องบการเงิน ซึ่งถ้าบริษัทไม่ปรับปรุงบัญชีให้ถูกต้องและครบถ้วน งบการเงินอาจแสดงฐานะการเงินและผลการดำเนินงานที่ต่างไปจากที่แสดงอยู่อย่างเป็น(สาระสำคัญ/สาระสำคัญมาก)
(วรรคความเห็น-กรณีผลกระทบมีสาระสำคัญ)
ข้าพเจ้าเห็นว่ายกเว้นผลกระทบต่องบการเงินของการบันทึกสินทรัพย์และรายการอื่นที่เกี่ยวข้องไว้ไม่ครบถ้วนตามที่อธิบายในวรรคที่สาม งบการเงินดังกล่าวข้างต้นแสดงฐานะการเงิน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 25xx และผลการดำเนินงานสำหรับปีสิ้นสุดวันเดียวกันของบริษัท กขค จำกัด โดยถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไป
(วรรคความเห็น-กรณีผลกระทบมีสาระสำคัญมาก)
ข้าพเจ้าเห็นว่าเนื่องจากรายการสินทรัพย์ต่างๆที่บริษัทมิได้บันทึกบัญชีไว้ดังกล่าวในวรรคที่สามมีสาระสำคัญอย่างมากต่องบการเงิน งบการเงินดังกล่าวข้างต้นมิได้แสดงฐานะการเงิน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 25xx และผลการดำเนินงานสำหรับปีสิ้นสุดวันเดียวกันของบริษัท กขค จำกัด โดยถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไป |
2. |
บริษัทไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลตามมาตรฐานการบัญชี ซึ่งข้อมูลที่ไม่เปิดเผยนั้น ทำให้งบการเงินเปิดเผยข้อมูลไม่เพียงพออย่างเป็นสาระสำคัญ ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตจะเขียนรายงานการสอบบัญชีอย่างไร |
|
แนวคำตอบ
รายงานการสอบบัญชี ดังนี้
วรรคนำ/วรรคขอบเขต-ข้อความปกติ
บริษัทมีหนี้สินที่อาจเกิดขึ้นซึ่งเกิดจากการค้ำประกันหนี้สินต่างๆของบริษัทที่เกี่ยวข้องกันหลายแห่งรวมเป็นเงินทั้งสิ้น X ล้านบาท แต่บริษัทมิได้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับหนี้สินที่อาจเกิดขึ้นดังกล่าวไว้ในงบการเงินให้เป็นไปตามหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไป
(วรรคความเห็น)
ข้าพเจ้าเห็นว่ายกเว้นการไม่เปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวรรคก่อนงบการเงินข้างต้นแสดง(ข้อความปกติจนจบวรรค) |
3. |
บริษัทไม่จัดทำรายงานภาษีซื้อ-ภาษีขาย ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตจะเขียนรายงานการสอบบัญชีอย่างไร |
|
แนวคำตอบ
รายงานการสอบบัญชี ดังนี้
วรรคนำ/วรรคขอบเขต-ข้อความปกติ
(วรรคอธิบาย)
บริษัทมิได้จัดทำรายงานภาษีซื้อ-ภาษีขายให้เป็นไปตามข้อกำหนดชอง
ซึ่งอาจมีผลทำให้บริษัทต้อง..เป็นจำนวนเงินประมาณ
บาท อย่างไรก็ตาม บริษัทมิได้ตั้งค่าเผื่อหนี้สินที่อาจเกิดขึ้นไว้ในงบการเงิน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2544 ให้เป็นไปตามหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไป ซึ่งมีผลให้กำไรสุทธิแสดงสูงไป
บาท หนี้สินต่ำไป
บาท
(วรรคความเห็น กรณีผลกระทบมีสาระสำคัญ)
ข้าพเจ้าเห็นว่ายกเว้นผลต่องบการเงินของเรื่องที่กล่าวในวรรคที่สามงบการเงินข้างต้นแสดง(ข้อความปกติจนจบวรรค) |
4. |
กรณีชำระค่าหุ้นไม่สอดคล้องกับหลักฐานทางทะเบียน แต่ผลกระทบต่องบการเงินไม่มีสาระสำคัญ ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตจะเขียนรายงานการสอบบัญชีอย่างไร |
|
แนวคำตอบ
รายงานการสอบบัญชี ดังนี้
วรรคนำ/วรรคขอบเขต-ข้อความปกติ
(วรรคอธิบาย)
ทุนจดทะเบียนออกจำหน่ายและชำระแล้วที่แสดงในงบดุล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2544 มีรายละเอียดไม่ตรงกับ
.(อธิบายให้เห็นว่าแตกต่างกันอย่างไร) อย่างไรก็ตามความ แตกต่างดังกล่าวไม่มีผลกระทบที่เป็นสาระสำคัญต่องบการเงิน
(วรรคความเห็น ไม่มีเงื่อนไข)
ข้าพเจ้าเห็นว่างบการเงินดังกล่าวข้างต้นแสดง ..(ข้อความปกติจนจบวรรค) |
5. |
กรณีชำระค่าหุ้นไม่สอดคล้องกับหลักฐานทางทะเบียน แต่ผลกระทบต่องบการเงินมีสาระสำคัญ ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตจะเขียนรายงานการสอบบัญชีอย่างไร |
|
แนวคำตอบ
รายงานการสอบบัญชี ดังนี้
วรรคนำ/วรรคขอบเขต-ข้อความปกติ
(วรรคอธิบาย)
ทุนจดทะเบียนออกจำหน่ายและชำระแล้วที่แสดงในงบดุล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2544 มีรายละเอียดไม่ตรงกับ
.ถ้าหากกิจการได้ ปรับปรุงให้ถูกต้อง(อธิบายผลกระทบต่อบุคคล)(วรรคความเห็น )
ข้าพเจ้าเห็นว่า ยกเว้นผลกระทบของเรื่องที่กล่าวในวรรคก่อนงบการเงินดังกล่าวข้างต้นแสดง(ข้อความปกติจนจบวรรค) |
6. |
บริษัทตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่ำไป และไม่ได้บันทึกบัญชีหนี้สินภาษีที่ถูกประเมินย้อนหลัง ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตจะเขียนรายงานการสอบบัญชีอย่างไร |
|
แนวคำตอบ
รายงานการสอบบัญชี ดังนี้
วรรคนำ/วรรคขอบเขต-ข้อความปกติ
(วรรคอธิบาย)
ลูกหนี้การค้าที่แสดงในงบดุลจำนวน
. บาท รวมลูกหนี้ที่ค้างชำระนานซึ่งข้าพเจ้าเห็นว่าบริษัทควรตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญจำนวน210,000 บาท แต่ผู้บริหารของกิจการเห็นว่ายังไม่จำเป็นต้องตั้งค่าเผื่อ นอกจากนี้ตามที่อธิบายในหมายเหตุประกอบงบการเงินข้อ
เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2545 ศาลฎีกาได้ตัดสินให้บริษัทแพ้คดีต่อกรมสรรพากรเกี่ยวกับการประเมินภาษีเงินได้นิติบุคคลของปีก่อนๆเพิ่มเติม เป็นเงิน 400,000 บาท อย่างไรก็ตามบริษัทมิได้บันทึกหนี้สินไว้ในงบการเงินสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2544 ถ้าบริษัทได้ตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยสูญและบันทึกหนี้สินภาษีเงินได้ดังกล่าวให้เป็นไปตามหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไป กำไรสุทธิและกำไรสะสมจะลดลง 610,000 บาท ลูกหนี้การค้า และยอดรวมสินทรัพย์จะลดลง 210,000 บาท และยอดรวมหนี้สินจะสูงขึ้น 400,000 บาท
(วรรคความเห็น กรณีผลกระทบมีสาระสำคัญ)
ข้าพเจ้าเห็นว่ายกเว้นผลกระทบต่องบการเงินของเรื่องดังกล่าวในวรรคที่สาม งบการเงินข้างต้นแสดง(ข้อความปกติจนจบวรรค)
(วรรคความเห็น กรณีผลกระทบมีสาระสำคัญมาก)
ข้าพเจ้าเห็นว่า เนื่องจากเรื่องดังกล่าวในวรรคที่สามมีผลกระทบที่เป็นสาระสำคัญอย่างมากต่องบการเงิน งบการเงินที่กล่าวในวรรคแรกมิได้แสดงฐานะการเงิน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2544 และผลการดำเนินงานสำหรับปีสิ้นสุดวันเดียวกันของบริษัท กขค จำกัด โดยถูกต้องตามที่ควรตามหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไป |
กรณีถูกจำกัดขอบเขตและไม่ปฏิบัติตามหลักการบัญชี
1. |
ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตไม่สามารถตรวจนับเงินสดต้นปีและสิ้นปี ซึ่งมีสาระสำคัญ และบริษัทตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่ำไป รวมทั้งไม่ได้บันทึกบัญชีหนี้สินภาษีที่ถูกประเมินย้อนหลัง ซึ่งมีสาระสำคัญ จะเขียนรายงานการสอบบัญชีอย่างไร |
|
แนวคำตอบ
รายงานการสอบบัญชี ดังนี้
เขียนวรรคนำโดยใช้ข้อความปกติ
(วรรคขอบเขต)
นอกจากที่กล่าวในวรรคที่สาม ข้าพเจ้าได้ปฏิบัติงานตรวจสอบ(ข้อความปกติจนจบวรรค)
(วรรคอธิบาย)
ข้าพเจ้าไม่ได้ตรวจนับเงินสดยกมาต้นปี 2544 จำนวน x บาท และเงินสดคงเหลือสิ้นปีตามที่แสดงในงบดุล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2544 จำนวน y บาท เนื่องจากวันนั้นข้าพเจ้ายังมิได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้สอบบัญชีของบริษัท โดย ข้าพเจ้าได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้สอบบัญชีเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2545 และข้าพเจ้าไม่สามารถใช้วิธีการตรวจสอบอื่นให้เป็นที่พอใจเกี่ยวกับยอดเงินสดดังกล่าว
(วรรคอธิบาย)
ลูกหนี้การค้าที่แสดงในงบดุลจำนวน
. บาท รวมลูกหนี้ที่ ค้างชำระนานซึ่งข้าพเจ้าเห็นว่าบริษัทควรตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ จำนวน 210,000 บาท แต่ผู้บริหารของกิจการเห็นว่ายังไม่จำเป็นต้องตั้งค่าเผื่อ นอกจากนี้ตามที่อธิบายในหมายเหตุประกอบงบการเงินข้อ
. เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2545 ศาลฎีกาได้ตัดสินให้บริษัทแพ้คดีต่อกรมสรรพากรเกี่ยวกับการประเมินภาษีเงินได้นิติบุคคลของปีก่อนๆเพิ่มเติม เป็นเงิน 400,000 บาท อย่างไรก็ตามบริษัทมิได้บันทึกหนี้สินไว้ในงบการเงินสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2544 ถ้าบริษัทได้ตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยสูญและบันทึกหนี้สินภาษีเงินได้ดังกล่าวให้เป็นไปตามหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไป กำไรสุทธิและกำไรสะสมจะลดลง 610,000 บาท ลูกหนี้การค้า และยอดรวมสินทรัพย์จะลดลง 210,000 บาท และยอดรวมหนี้สินจะสูงขึ้น 400,000 บาท
(วรรคความเห็น)
ข้าพเจ้าเห็นว่ายกเว้นผลของการปรับปรุงงบการเงิน ซึ่งอาจจำเป็นถ้าข้าพเจ้าสามารถตรวจสอบให้เป็นที่พอใจในจำนวนเงินสดคงเหลือตามที่อธิบายในวรรคที่สาม และยกเว้นผลกระทบต่องบการเงินของเรื่องการปฏิบัติผิดหลักการบัญชีตามที่อธิบายในวรรคที่สี่งบการเงินข้างต้นแสดงฐานะการเงิน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2544 และผลการดำเนินงานสำหรับปีสิ้นสุดวันเดียวกันของบริษัท กขค จำกัด โดยถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไป |
2. |
ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตไม่สามารถเข้าสังเกตการณ์การตรวจนับสินค้าคงเหลือทั้งต้นปีและสิ้นปี ซึ่งมีสาระสำคัญมาก และบริษัทตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่ำไป รวมทั้งไม่ได้บันทึกบัญชีหนี้สินภาษีที่ถูกประเมินย้อนหลัง ซึ่งมีสาระสำคัญกรณีนี้จะเขียนรายงานการสอบบัญชีอย่างไร |
|
แนวคำตอบ
รายงานการสอบบัญชี ดังนี้
วรรคนำใช้ข้อความ ดังนี้
ข้าพเจ้าได้รับการแต่งตั้งให้เข้าทำการตรวจสอบงบดุล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2544 แลงบกำไรขาดทุนสำหรับปีสิ้นสุดวันเดียวกันของบริษัท กขค จำกัด ซึ่งผู้บริหารของกิจการเป็นผู้รับผิดชอบต่อความถูกต้องและครบถ้วนของข้อมูลในงบการเงินเหล่านี้
(วรรคขอบเขตไม่ต้องเขียน)
(วรรคอธิบาย)
ข้าพเจ้าไม่ได้เข้าสังเกตการณ์การตรวจนับสินค้าคงเหลือต้นงวดที่แสดงในงบการเงิน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2543 จำนวน x บาท และสินค้าคงเหลือ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2544 จำนวน y บาท เนื่องจาก ณ วันนั้น ข้าพเจ้ายังไม่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้สอบบัญชีของกิจการ โดยข้าพเจ้า ได้รับการแต่งตั้งเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2545 และข้าพเจ้าไม่สามารถใช้วิธีการตรวจสอบอื่นให้เป็นที่พอใจในปริมาณสินค้าคงเหลือดังกล่าวได้ ซึ่งมูลค่าสินค้าทั้งต้นงวดและสิ้นงวดนั้นมีสาระสำคัญอย่างมากต่อฐานะการเงิน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2544 และผลการดำเนินงานสำหรับปีสิ้นสุดวันเดียวกันของบริษัทนอกจากนี้ตามที่อธิบายในหมายเหตุประกอบงบการเงินข้อ
เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2545 ศาลฎีกาได้ตัดสินให้บริษัทแพ้คดีต่อกรมสรรพากรเกี่ยวกับการประเมินภาษีเงินได้นิติบุคคลของปีก่อนๆ เพิ่มเติม เป็นเงิน 400,000 บาท อย่างไรก็ตามบริษัทมิได้บันทึกหนี้สินไว้ในงบการเงินสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2544 ถ้าบริษัทได้ตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยสูญและบันทึกหนี้สินภาษีเงินได้ดังกล่าวให้เป็นไปตามหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไป กำไรสุทธิและกำไรสะสมจะลดลง 610,000 บาท ลูกหนี้การค้า และยอดรวมสินทรัพย์จะลดลง 210,000 บาท และยอดรวมหนี้ สินจะสูงขึ้น 400,000 บาท
(วรรคความเห็น)
เนื่องจากข้าพเจ้าไม่สามารถตรวจสอบให้เป็นที่พอใจเกี่ยวกับสินค้าคงเหลือต้นงวดและปลายงวด ซึ่งมีสาระสำคัญมากตามที่อธิบายในวรรคที่สอง ข้าพเจ้าจึงไม่อาจแสดงความเห็นต่องบการเงินของบริษัท กขค จำกัด สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2544 |
3. |
ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตไม่สามารถยืนยันยอดลูกหนี้เจ้าหนี้คงเหลือสิ้นปี ซึ่งมีสาระสำคัญ และบริษัทตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่ำไป รวมทั้งไม่ได้บันทึกบัญชีหนี้สินภาษีที่ถูกประเมินย้อนหลังซึ่งมีสาระสำคัญมาก กรณีนี้จะเขียนรายงานการสอบบัญชีอย่างไร |
|
แนวคำตอบ
รายงานการสอบบัญชี ดังนี้
เขียนวรรคนำโดยใช้ข้อความปกติ
(วรรคขอบเขต)
นอกจากที่กล่าวในวรรคที่สาม ข้าพเจ้าได้ปฏิบัติงานตรวจสอบ..(ข้อความปกติจนจบวรรค)
ข้าพเจ้าไม่สามารถขอคำยืนยันยอดลูกหนี้การค้าจำนวน
บาท ลูกหนี้เงินให้กู้ยืมจำนวน
บาท และเจ้าหนี้เงินกู้จำนวน
. บาท ที่แสดงในงบดุล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2544 เนื่องจากหลักฐานทางบัญชีมีรายละเอียดไม่เพียงพอว่าลูกหนี้และเจ้าหนี้ดังกล่าวเป็นใครและ เป็นหนี้จำนวนเท่าใด และข้าพเจ้าไม่สามารถใช้วิธีการตรวจสอบอื่นให้เป็นที่พอใจเกี่ยวกับยอด ลูกหนี้และเจ้าหนี้ดังกล่าวได้
(วรรคอธิบาย)
ลูกหนี้การค้าที่แสดงในงบดุลจำนวน
. บาท รวมลูกหนี้ที่ค้างชำระนานซึ่งข้าพเจ้าเห็นว่าบริษัทควรตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ จำนวน 210,000 บาทแต่ผู้บริหารของกิจการเห็นว่ายังไม่เป็นต้องตั้งค่าเผื่อ นอกจากนี้ตามที่อธิบายในหมายเหตุประกอบงบการเงินข้อ
เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2545 ศาลฎีกาได้ตัดสินให้บริษัทแพ้คดีต่อกรมสรรพากรเกี่ยวกับการประเมินภาษีเงินได้นิติบุคคลของปีก่อนๆเพิ่มเติม เป็นเงิน400,000 บาท อย่างไรก็ตามบริษัทมิได้บันทึกหนี้สินไว้ในงบการเงินสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2544 ถ้าบริษัทได้ตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยสูญและบันทึกหนี้สินภาษีเงินได้ดังกล่าวให้เป็นไปตามหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไปกำไรสุทธิและกำไรสะสมจะลดลง 610,000 บาท ลูกหนี้การค้า และ ยอดรวมสินทรัพย์จะลดลง 210,000 บาท และยอดรวมหนี้สินจะสูงขึ้น 400,000 บาท
(วรรคความเห็น)
ข้าพเจ้าเห็นว่า เนื่องจากเรื่องดังกล่าวในวรรคที่สี่ มีผลกระทบที่เป็นสาระสำคัญอย่างมากต่องบการเงิน งบการเงินที่กล่าวในวรรคแรกมิได้แสดงฐานะการเงิน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2544 และผลการดำเนินงานสำหรับปีสิ้นสุดวันเดียวกันของบริษัท กขค จำกัด โดยถูกต้องตามที่ควรตามหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไป |
ปัญหาอื่นๆ
1. |
กรณีที่ผู้สอบบัญชีไม่ตรวจนับเงินสดซึ่งมีสาระสำคัญ ผู้สอบบัญชีจะรายการการสอบบัญชีแบบไม่แสดงความเห็น อยากทราบว่าการที่ผู้สอบบัญชีไม่แสดงความเห็นนั้นเป็นการไม่แสดงความเห็นเฉพาะเงินสดอย่างเดียวหรือไม่แสดงความเห็นต่อรายการทั้งหมดของงบการเงิน |
|
แนวคำตอบ
การที่ผู้สอบบัญชีไม่สามารถตรวจสอบให้เป็นที่พอใจในความถูกต้องของรายการเงินสดได้ ไม่ว่าจะโดยสถานการณ์ เช่น ผู้สอบบัญชีได้รับแต่งตั้งภายหลังวันที่ในงบดุล หรือโดยลูกค้าเช่นลูกค้าไม่อนุญาตให้เข้าทำการตรวจนับเงินสดถือได้ว่างานของผู้สอบบัญชีถูกจำกัดขอบเขต ผู้สอบบัญชีอาจแสดงความเห็นต่องบการเงินอย่างมีเงื่อนไขหรือไม่แสดงความเห็นก็ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความมีสาระสำคัญของรายการดังกล่าวที่มีผลกระทบต่องบการเงิน |
2. |
อยากทราบว่าหน้ารายงานของผู้สอบบัญชีรับอนุญาตที่ตรวจสอบกิจการประเภทห้างหุ้นส่วน ฯ ในรอบบัญชีปี 2545 นี้จะต้องออกเหมือนกับหน้ารายงานของผู้ตรวจสอบบัญชีภาษีอากร หรือไม่เพราะสอบถามไปหลายที่แล้วก็ไม่ได้รับคำตอบที่แน่นอน บ้างก็บอกว่าต้องออกหน้ารายงานเหมือนกับผู้ตรวจสอบบัญชีภาษีอากรบ้างก็บอกว่าถ้าผู้สอบบัญชีรับอนุญาตตรวจสอบกิจการประเภทห้างหุ้นส่วนก็ให้ออกหน้ารายงานเป็นของผู้สอบบัญชีรับอนุญาตไม่เกี่ยวกับผู้ตรวจสอบบัญชีภาษีอากร |
|
แนวคำตอบ
เรื่องการรับรองงบการเงินของห้างหุ้นส่วนจดทะเบียนที่มีทุนไม่เกิน 5 ล้าน บาท และสินทรัพย์รวม 30ล้านบาทและ รายได้รวม 30ล้านบาทที่ส่งกระทรวงพาณิชย์ไม่ต้องมีหน้ารายงาน(ยื่นเฉพาะงบการเงินเท่านั้น) แต่ที่ยื่นที่กรมสรรพากรต้องมีหน้ารายงานซึ่งต้องมีผู้สอบบัญชีภาษีอากรหรือผู้สอบบัญชีรับอนุญาตเป็นผู้ตรวจสอบและรับรองบัญชีได้แต่ต้องปฏิบัติการตรวจสอบและรับรองบัญชีตามแนวทางที่กรมสรรพากรกำหนดกล่าวคือต้องออกรายงานตามแบบประกาศของกรมสรรพากร |
3. |
การรับงานสอบบัญชีเป็นปีแรกโดยเฉพาะการรับงานสอบบัญชีธุรกิจที่เคยใช้ผู้สอบบัญชีที่รับจ้างลงลายมือชื่อ (มือปืนรับจ้าง) ในปีก่อน ควรแสดงความเห็นต่องบการเงินอย่างใด |
|
แนวคำตอบ
การรับงานสอบบัญชีธุรกิจที่เคยใช้ผู้สอบบัญชีที่รับจ้างลงลายมือชื่อ(มือปืนรับจ้าง) ในปีก่อน ผู้สอบบัญชีต้องตรวจสอบความถูกต้องของยอดยกมาต้นงวดเกี่ยวกับความมีตัวตน มูลค่า และความถูกต้องของสินทรัพย์หนี้สินและส่วนของเจ้าของ ตามมาตรฐานการสอบบัญชีและแสดงความเห็นต่องบการเงินว่าถูกต้องเพียงใดหรือไม่แล้วแต่กรณี หากผู้สอบบัญชีไม่สามารถตรวจสอบให้เป็นที่พอใจเกี่ยวกับความถูกต้องของรายการที่ยกมาจากปีก่อน หรือธุรกิจไม่ยอมปรับปรุงบัญชีให้ถูกต้องตามข้อเสนอแนะของผู้สอบบัญชีผู้สอบบัญชีสามารถแสดงความเห็น โดยมีเงื่อนไขหรือแสดงความเห็นว่างบการเงินไม่ถูกต้อง หรือรายงานว่าไม่แสดงความเห็นต่องบการเงินทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับความมีสาระสำคัญของเรื่องที่ไม่ถูกต้อง หรือเรื่องที่ไม่สามารถตรวจสอบได้แล้วแต่กรณี |
4. |
หน้ารายงานของผู้สอบบัญชี สำหรับงบการเงินของห้างหุ้นส่วนที่จะเลิกต้องใช้หน้ารายงานแบบใดระหว่างแบบของผู้สอบบัญชีภาษีอากรที่เป็นแบบ 5 ข้อ หรือแบบของผู้สอบเดิมที่เป็นแบบ 3 วรรค |
|
แนวคำตอบ
ใช้หน้ารายงานแบบรายงานผู้สอบบัญชี 3 วรรค ตามรูปแบบท้ายประกาศ ก.บช. ฉบับที่ 41(พ.ศ. 2541 ) โดยอาจพิจารณาปรับปรุงถ้อยคำให้สอดคล้องกัน |
5. |
ยากทราบเรื่องการลงวันที่ในรายงานผู้สอบบัญชี ผู้สอบบัญชีสามารถลงวันที่ย้อนหลังในหน้ารายงานผู้สอบบัญชีได้หรือไม่ |
|
แนวคำตอบ
ผู้สอบบัญชีควรใช้วันสิ้นสุดการตรวจสอบเป็นวันที่ในรายงานของผู้สอบบัญชีซึ่งเป็นการแจ้งให้ผู้ใช้งบการเงินทราบว่าผู้สอบบัญชีได้พิจารณาผลกระทบต่องบการเงินและรายงานถึงเหตุการณ์หรือรายการที่ได้เกิดขึ้นจนถึงวันที่สิ้นสุดการตรวจสอบแล้ว ทั้งนี้ เป็นไปตามมาตรฐานการสอบบัญชี รหัสที่ 700รายงานของผู้สอบบัญชีต่องบการเงิน |
6. |
หน้ารายงานของผู้สอบบัญชีต้องกล่าวถึง การดำรงอยู่ของกิจการหรือไม่ |
|
แนวคำตอบ
ในการปฏิบัติงานตรวจสอบผู้สอบบัญชีควรพิจารณาความเหมาะสมของการใช้ข้อสมมติ เรื่อง การดำเนินงานต่อเนื่อง ( Going Concern) ของกิจการซึ่งผู้บริหารใช้ในการจัดทำงบการเงินเพื่อพิจารณาในเรื่องความไม่แน่นอนที่มีสาระสำคัญ ซึ่งเป็นเหตุให้เกิดข้อสงสัยเกี่ยวกับความสามารถในการดำเนินการต่อเนื่องของกิจการ ทั้งนี้ ตามมาตรฐานการปฏิบัติงานผู้สอบบัญชีจะดำเนินการ ดังนี้
1) หากไม่พบเหตุการณ์ที่เกี่ยวกับความไม่แน่นอน ซึ่งอาจมีผลกระทบต่องบ การเงินอย่างมีสาระสำคัญ ผู้สอบบัญชีไม่จำเป็นต้องกล่าวถึงเรื่องความ สามารถในการดำเนินงานต่อเนื่องของกิจการไว้ในรายงานของผู้สอบบัญชี และสามารถแสดงความเห็นอย่างไม่มีเงื่อนไขต่องบการเงินสำหรับกรณีดังกล่าวได้
2) หากพบเหตุการณ์ที่เกี่ยวกับความไม่แน่นอนซึ่งอาจมีผลกระทบต่องบการ
เงินอย่างมีสาระสำคัญถึงแม้ว่ากรณีดังกล่าวไม่ถือเป็นสถานการณ์ที่กระทบต่อรูปแบบการแสดงความเห็นของผู้สอบบัญชีแต่ผู้สอบบัญชีควรเปลี่ยนแปลงรายงานการสอบบัญชีโดยเพิ่มวรรคเน้นข้อมูลและเหตุการณ์ เพื่อเน้นเรื่องความไม่แน่นอนที่มีสาระสำคัญเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพร้อมทั้งระบุไว้ในหน้ารายงานโดยให้สังเกตหมายเหตุประกอบงบการเงินที่เปิดเผยเรื่องดังกล่าวด้วย
| |
ที่มาของข้อมูล : สภาวิชาชีพบัญชี