การบัญชีการเงินและการบัญชีการบริหาร
การบัญชีการเงิน คือ การบัญชีที่เกี่ยวกับการจัดเก็บรวบรวม จำแนก และรายงานข้อมูลทางการเงินของกิจการที่เกิดขึ้นในอดีตให้กับบุคคลภายนอกที่ต้องการข้อมูลทางการเงิน
การบัญชีการบริหาร จะมีหลักการเกี่ยวกับหารให้ข้อมูลทางการเงินแก่ผู้บริหารภาายในกิจการใช้ในการวางแผน ควบคุม และการตัดสินใจในการดำเนินกิจการต่าง ๆ ของกิจการ
ความแตกต่างระหว่างการบัญชีการเงินและการบัญชีการบริหาร
บัญชีการเงิน
1. เสนอข้อมูลแก่บุคคลภายนอก
2. จัดทำภายใต้ข้อบังคับของกฎหมาย
3. จัดทำขึ้นตามหลักการบัญชีที่ยอมรับโดยทั่วไป
4. ข้อมูลจะถูกเสนอตามเวลาที่ผู้บริหารเกิดความต้องการ
5. เป็นข้อมูลที่เกิดขึ้นในอดีต
6. เสนอข้อมูลในภาพรวมของกิจการ
7. เสนอข้อมูลที่เกี่ยวกับรายการดำเนินงาน
8. ข้อมูลจะถูกเสนอตามรอบบัญชี
บัญชีบริหาร
1. เสนอข้อมูลแก่ผู้บริหาร
2. ไม่อยู่ภายใต้ข้อบังคับของกฎหมาย
3. ยืดหยุ่นตามประเด็นของปัญหาการตัดสินใจ
4. เน้นข้อมูลที่เกี่ยวข้อกับการตัดสินใจ
5. เน้นข้อมูลที่เกิดขึ้นในอดีต
6. เน้นเสนอข้อมูลของกิจการโดยเฉพาะส่วนใดส่วนหนึ่งของกิจการ
7. เสนอข้อมูลทั้งทางด้านเชิงคุณภาพและข้อมูลจากปัจจัยภายนอกก เช่น ภาวะเศรษฐกิจ
8. ข้อมูลจะถูกเสนอตามเวลาที่ผู้บริหารเกิดความต้องการ
การบัญชีต้นทุนกับการบัญชีบริหาร
บัญชีต้นทุน คือ กระบวนการจดบันทึกและรายงานข้อมูลต้นทุนของผลิตภัณฑ์หรือบริการ ลักษณะภาพรวม โดยวิธี
การรับรู้ การจำแนก การจัดสรร การรวบรวม ตลอดจนการเปรียบเทียบและวิเคราะห์ข้อมูลต้นทุน มีลักษณะ คล้ายกับ การบัญชีบริหาร
การบัญชีต้นทุนเน้นที่การสะสมข้อมูลต้นทุน แต่ บัญชีบริหาร เน้นการใช้ข้อมูลทางด้านต้นทุนเพื่อการวางแผน การควบคุมและการตัดสินใจ
บทบาทหน้าที่ของฝ่ายบริหาร
1. การวางแผน
2. การประสานงาน
3. การควบคุม
4. การตัดสินใจ
หน้าที่ของผู้อำนวยการฝ่ายบัญชี
ผู้อำนวยการมีอำนาจหน้าที่ในการให้การสนับสนุนให้คำแนะนำและให้บริการข้อมูลทางการเงินตลอดจนบริการทางด้าานต่าง ๆ และอำนาจหลักในการบังคับบัญชาสมาชิกหรือบุคคลในหน่วยงาน
หน้าที่หลัก ๆ ของผู้อำนวยการฝ่ายบัญชี
1. การวางแผนและการควบคุม
2. รายงานและวิเคราะห์ข้อมูลทางการเงิน
3. การบริหารภาษีอากร
4. การตรวจสอบภายใน
5. การพัฒนาระบบข้อมูลทางการบัญชี
งบการเงิน
ในการดำเนินงานของกิจการโดยทั่วไปเมื่อสิ้นรอบระยะเวลาบัญชีต้องมีการเสนอข้อมูลทางการเงินเพื่อประเมินผลการดำเนินงานที่ผ่านมาในรูปของงบการเงิน ซึ่งงบการเงินจะเป็นรายงานทางการเงินที่จัดทำขึ้นเพื่อเสนอข้อมูลทางการเงินโดยอาศัยข้อมูลทางการบัญชีในการจัดทำ งบการเงินที่จัดทำขึ้นจะเป็นประโยชน์ต่อบุคคลหลายฝ่ายเช่น เจ้าของกิจการหรือผู้ถือหุ้นต้องการทราบผลการดำเนินงานและฐานะของกิจการเพื่อประโยชน์ในการประเมินประสิทธิภาพของผู้บริหาร เจ้าหนี้ของกิจการต้องการทราบข้อมูลทางการเงินเพื่อพิจารณาความสามารถในการชำระหนี้ของกิจการ รัฐบาลต้องการใช้ข้อมูลทางการเงินเพื่อประเมินภาษี พนักงานสนใจข้อมูลทางการเงินเพื่อประโยชน์ในการเรียกร้องค่าตอบแทนที่สูงขึ้น และผู้สนใจทั่วไปต้องการข้อมูลทางการเงินเพื่อนำไปใช้วิเคราะห์ วิจัยหรืออื่น ๆ ตามวัตถุประสงค์ที่ต้องการ
1. ความหมายของงบการเงิน (Definition of Financial Statement)
งบการเงิน หมายถึง รายงานทางการเงินที่จัดทำขึ้นเพื่อเสนอข้อมูลทางการเงินเกี่ยวกับผลของการดำเนินงานของกิจการสำหรับระยะเวลาใดเวลาหนึ่ง เพื่อแสดงฐานะของกิจการค้า ณ วันใดวันหนึ่ง งบการเงินโดยทั่วไปจะประกอบด้วย งบดุล (Balance Sheet) งบกำไรขาดทุน (Income Statement)
งบแสดงการเปลี่ยนแปลงฐานะการเงิน (Statement of Change in Financial Position)นอกจากนี้งบการเงินยังรวมถึงหมายเหตุประกอบงบ งบย่อย และคำอธิบายอื่นซึ่งระบุไว้เป็นส่วนหนึ่งของงบการเงิน
2. ประเภทของงบการเงิน (Types of Financial Statement)
งบการเงินเป็นรายงานทางการเงินที่จัดทำขึ้นเพื่อเสนอข้อมูลทางการเงินเกี่ยวกับผลการดำเนินงานของกิจการและแสดงฐานะการเงินของกิจการ ซึ่งสามารถแบ่งประเภทได้ดังนี้
2.1 งบดุล (Balance Sheet)
2.2 งบกำไรขาดทุน ( Income Statement)
2.3 งบแสดงการเปลี่ยนแปลงฐานะทางการเงิน (Statement of Change in Financial Position)
2.1 งบดุล (Balance Sheet) เป็นงบการเงินที่ทำขึ้นในวันใดวันหนึ่งโดยปกติจะจัดทำ ณ วันสิ้นงวดบัญชีหรือสิ้นปี เพื่อแสดงฐานะของกิจการว่าประกอบด้วย สินทรัพย์ หนี้สิน และส่วนของเจ้าของเป็นจำนวนเท่าใด รวมถึงการหมายเหตุต่อท้ายงบการเงิน ซึ่งเปิดเผยถึงรายละเอียดข้อมูลเกี่ยวข้องกับภาระผูกพันที่อาจเกิดขึ้นได้
2.1.1 การจัดประเภทรายการในงบดุล
รายการในงบดุลจะจัดประเภทรายการได้ดังนี้
สินทรัพย์
1. สินทรัพย์หมุนเวียน
2. เงินลงทุน
3. ที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์ (สินทรัพย์ถาวร)
4. สินทรัพย์ไม่มีตัวตน
5. สินทรัพย์อื่น
หนี้สินและส่วนของเจ้าของ
1.หนี้สินหมุนเวียน
2. หนี้สินระยะยาว
3. หนี้สินอื่น
4. ส่วนของเจ้าของ
2.2 งบกำไรขาดทุน (Income Statement) เป็นรายงานทางการเงินที่ทำขึ้นเพื่อแสดงว่าในระยะเวลาหนึ่ง ๆ กิจการมีรายได้รวมทั้งสิ้นเท่าใด และมีค่าใช้จ่ายทั้งสิ้นเท่าใด หากรายได้รวมทั้งสิ้นมากกว่ารายได้รวมทั้งสิ้น
2.2.1 การแบ่งประเภทรายการในงบกำไรขาดทุน
1. รายได้ (Income or Revenues) หมายถึง ผลตอบแทนจากการที่กิจการได้รับจากการประกอบการโดยปกติของกิจการอันเนื่องมาจากการจำหน่ายสินค้าหรือให้บริการ รวมถึงการลงทุนในสินทรัพย์ ซึ่งเป็นผลทำให้สินทรัพย์และส่วนของเจ้าของเพิ่มขึ้น หรือหนี้สินลดลง
รายได้แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
1.1 รายได้จากการขาย (Sale) หรือรายได้จากการดำเนินงาน
(Operating Revenues) หมายถึง รายได้จากการขายสินค้าหรือบริการ ซึ่งเป็นรายได้เกิดจากการดำเนินงานปกติ
1.2 รายได้อื่น ๆ (Other Revenues) หมายถึง รายได้ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานปกติ ตามข้อ 1.1 ได้แก่ ดอกเบี้ยรับ กำไรจากการขายสินทรัพย์ถาวร เงินปันผลรับ เป็นต้น
2. ค่าใช้จ่าย (Expenses) หมายถึง สินทรัพย์ของกิจการที่ลดลงหรือหนี้สินที่เพิ่มขึ้นอันเนื่องมาจากการผลิต การจัดหาสินค้าและค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เพื่อการจำหน่ายสินค้าและบริการ ค่าใช้จ่ายสามารถแบ่งตามประเภทของธุรกิจได้ดังนี้
2.1 กิจการให้บริการ กิจการให้บริการจะมีค่าใช้จ่ายที่แสดงในงบกำไรขาดทุน 2 ประเภท
2.1.1 ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (Operating Expenses) ได้แก่ ค่าพาหนะ ค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า ค่าโทรศัพท์
2.1.2 ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ (Other Expenses) เช่น ดอกเบี้ยจ่าย ขาดทุนจากการขายสินทรัพย์ถาวร เป็นต้น
2.2 กิจการขายสินค้า กิจการขายสินค้าจะมีค่าใช้จ่ายที่แสดงในงบกำไรขาดทุน 2 ประเภท คือ
2.2.1 ต้นทุนขาย (Cost Of Goods Sold) หมายถึง ต้นทุนสินค้าที่ขายในระหว่างงวด
2.2.2 ค่าใช้จ่ายดำเนินงาน (Operating Expenses) แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ
- ค่าใช้จ่ายในการขาย (Selling Expenses) เช่น เงินเดือนพนักงานขาย
ค่านายหน้า ค่าโฆษณา
- ค่าใช้จ่ายในการบริหารและทั่วไป (Administrative and General Expenses) ได้แก่ เงินเดือนฝ่ายบริหาร ค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า ค่าเสื่อมราคา เป็นต้น
2.2.3 ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ (Other Expenses) ได้แก่ ดอกเบี้ยจ่าย ขาดทุนจากการขายสินทรัพย์ถาวร เป็นต้น
3. กำไรสุทธิหรือขาดทุนสุทธิ (Net Income or Net loss) ในกรณีที่รายได้มากกว่าค่าใช้จ่ายจะเกิดผลกำไรสุทธิ แต่ถ้ารายได้น้อยกว่าค่าใช้จ่ายจะเกิดผลขาดทุนสุทธิ
4. รายการพิเศษ (Extraordinary Items) หมายถึง รายได้หรือค่าใช้จ่ายที่ไม่ได้เกิดจากการดำเนินงานตามปกติของกิจการ จะเกิดภายใต้เงื่อนไข 2 ประการ คือ
4.1 มีลักษณะผิดปกติ
3.2 ไม่เกิดเป็นประจำ
5. ภาษีเงินได้ (Income Tax) รายจ่ายของกิจการที่ต้องจ่ายให้กับรัฐบาลตามกำไรที่หามาได้ตามงวดบัญชีหนึ่ง
6. กำไรต่อหุ้น (Earnings Per Share) หาได้โดยการนำกำไรสุทธิหารด้วยจำนวนหุ้นของบริษัททั้งหมด
รวบรวมโดย จรัส อินทร์คง