แนวคำตอบ
สถาบันใดที่ประสงค์จะเป็นหน่วยงานในการพัฒนาความรู้ต่อเนื่องทางวิชาชีพ จะต้องได้รับความเห็นชอบจากอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้าก่อน หลักเกณฑ์การขอรับความเห็นชอบจากอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้าในหลักสูตรการพัฒนาความรู้ต่อเนื่องทางวิชาชีพ หรือการขอความเห็นชอบเป็นสถาบันหรือหน่วยงานผู้จัดอบรมต้องดำเนินการ ดังนี้
- กรณีสถาบันการศึกษาของรัฐ สถาบันการศึกษาของเอกชนตามกฎหมายว่าด้วยสถาบันการศึกษาของเอกชน ซึ่งมีการสอนไม่ต่ำกว่าระดับอนุปริญญาหรือประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) ทางการบัญชีหรือเทียบเท่า สมาคมนักบัญชีและผู้สอบบัญชีรับอนุญาตแห่งประเทศไทย หอการค้าไทยหรือสถาบันผู้จัดอบรมที่เคยได้รับความเห็นชอบจากอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้าแล้ว ให้ยื่นหลักฐานการขอรับความเห็นชอบในหลักสูตรการอบรม/สัมมนา เพื่อให้สามารถนับเป็นชั่วโมงการพัฒนาความรู้ต่อเนื่องทางวิชาชีพได้ โดยต้องทำเป็นหนังสือยื่นต่ออธิบดีพร้อมแนบหลักฐาน ดังนี้
(1) รายละเอียดหลักสูตร เนื้อหา ขอบเขตวิชา
(2) ระยะเวลา และค่าธรรมเนียมในการจัดอบรม/สัมมนา
(3) ชื่อ คุณวุฒิ และประสบการณ์ในการทำงานของวิทยากรผู้บรรยาย
ทั้งนี้ วิทยากรผู้บรรยายจะต้องมีคุณวุฒิไม่ต่ำกว่าระดับปริญญาตรีในสาขาที่ให้การอบรม/สัมมนา หรือมีประสบการณ์ในเรื่องที่จะให้การอบรม/สัมมนาอย่างเพียงพอ
- กรณีสถาบันหรือหน่วยงานอื่นนอกเหนือจากข้อ 1 ต้องยื่นความประสงค์ขอรับความเห็นชอบจากอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเป็นผู้จัดอบรม/สัมมนาในแต่ละหลักสูตรเพื่อให้สามารถนับเป็นชั่วโมงการพัฒนาความรู้ต่อเนื่องทางวิชาชีพได้ โดยต้องทำเป็นหนังสือยื่นต่ออธิบดีพร้อมแนบหลักฐาน ดังนี้
(1) สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มีอำนาจกระทำการแทนสถาบันวิชาชีพบัญชีหรือสถาบันการศึกษาหรือหน่วยงานนั้น
(2) สำเนาบัตรประจำตัวผู้เสียภาษีอากรและสำเนาหนังสือรับรองการจัดตั้งสถาบันวิชาชีพบัญชีหรือสถาบันการศึกษาหรือหน่วยงาน (ถ้ามี)
(3) รายละเอียดหลักสูตร เนื้อหา ขอบเขตวิชา
(4) ระยะเวลาและค่าธรรมเนียมในการจัดอบรม/สัมมนา
(5) ชื่อ คุณวุฒิ และประสบการณ์ในการทำงานของวิทยากรผู้บรรยาย
ทั้งนี้วิทยากรผู้บรรยายจะต้องมีคุณวุฒิไม่ต่ำกว่าระดับปริญญาตรีในสาขาที่ให้การอบรม/สัมมนา หรือมีประสบการณ์ในเรื่องที่จะให้การอบรม/สัมมนาอย่างเพียงพอ
- หากมีการเปลี่ยนแปลงหลักสูตรการอบรม/สัมมนาไปจากที่อธิบดีให้ความเห็นชอบไว้แล้วหรือจัดทำหลักสูตรขึ้นใหม่ จะต้องขอความเห็นชอบหลักสูตรนั้นจากอธิบดีก่อนการจัดอบรม/สัมมนา โดยให้จัดส่งรายละเอียดดังต่อไปนี้ มาเพื่อประกอบการพิจารณา
(1) รายละเอียดหลักสูตร เนื้อหา ขอบเขตวิชา
(2) ระยะเวลาและค่าธรรมเนียมในการจัดอบรม
(3) ชื่อ คุณวุฒิ และประสบการณ์ในการทำงานของวิทยากรผู้บรรยาย
เว้นแต่ในกรณีที่เป็นการอบรม/สัมมนาในหัวข้อที่เป็นเรื่องเร่งด่วน หรือนำสมัยซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ทำบัญชีและไม่สามารถยื่นเรื่องเพื่อขอรับความเห็นชอบได้ทัน สถาบันวิชาชีพบัญชีหรือสถาบันการศึกษาหรือหน่วยงานนั้นอาจจัดอบรม/สัมมนาในเรื่องดังกล่าวไปก่อนได้แต่ต้องจัดส่งรายละเอียดดังกล่าวต่ออธิบดีเพื่อขอรับความเห็นชอบภายในกำหนด 1 เดือน นับแต่วันสิ้นสุดการอบรมสัมมนา ทั้งนี้ สถาบันวิชาชีพบัญชีหรือสถาบันการศึกษาหรือหน่วยงานนั้นต้องแจ้งให้ผู้ทำบัญชีที่สมัครเข้ารับการอบรม/สัมมนาทราบด้วยว่าหลักสูตรดังกล่าวอยู่ระหว่างการขอรับความเห็นชอบจากอธิบดี
- การเก็บหลักฐานการลงทะเบียนเข้ารับการอบรม/สัมมนา สถาบันวิชาชีพบัญชีหรือสถาบันการศึกษาหรือหน่วยงานผู้จัดอบรมต้องจัดเก็บหลักฐานการลงทะเบียนเข้ารับการอบรม/สัมมนาของผู้ทำบัญชีทุกรายไว้เป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่าห้าปีนับแต่วันสิ้นปีปฏิทินของวันที่สิ้นสุดการอบรม/สัมมนา และจะต้องออกหนังสือรับรองการเข้ารับการอบรม/สัมมนา แต่ละครั้งให้แก่ผู้ทำบัญชีโดยหนังสือรับรองดังกล่าวจะต้องมีรายการอย่างน้อยดังต่อไปนี้
(1) ชื่อ ที่อยู่ และเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากรของสถาบันวิชาชีพบัญชี หรือสถาบันการศึกษาหรือหน่วยงาน (ถ้ามี)
(2) ชื่อผู้เข้ารับการอบรม/สัมมนาและรหัสเลขที่ผู้ทำบัญชี
(3) หลักสูตรที่อบรม/สัมมนา และวันที่ที่หลักสูตรนั้นได้รับความเห็นชอบจากอธิบดี
(4) วัน เวลา และจำนวนชั่วโมงที่เข้ารับการอบรม/สัมมนา
(5) ลายมือชื่อของผู้มีอำนาจกระทำการแทน หรือผู้ได้รับมอบหมายให้กระทำการแทนพร้อมทั้งประทับตรา (ถ้ามี)
(6) วันที่ออกหนังสือรับรอง
|