คนไร้ความสามารถและบุคคลเสมือนไร้ความสามารถ
คนไร้ความสามารถ
คนไร้ความสามารถคือบุคคลวิกลจริตทีศาลมีคําสั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถซึ่งคําว่า “บุคคลวิกลจริต” นั้นไม่ได้หมายถึงเฉพาะบุคคลทีมีจิตใจผิดปกติหรือเป็นบ้าเท่านั้นแต่หมายความรวมถึงบุคคลที่ขาดความรู้สึกขาดความรับผิดชอบจนไม่สามารถประกอบกิจการใดๆได้ด้วยตนเองเช่นโรคสมองฝ่อ สมองพิการ สมองเสื่อมขั้นรุนแรง จิตไม่ปกติเป็นการถาวรเจ็บป่วยไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้
คําว่า บุคคลวิกลจริต
1.บุคคลที่มีสติสัมปชัญญะไม่สมบูรณ์ ท่าให้ไม่สามารถตัดสินใจแยกถูกผิดได้ดังคนปกติ ไม่สามารถรักษาผลประโยชน์ของตนเองได้มีอาการดังกล่าวแบบติดตัวหรือเป็นประจํา
2.บุคคลทีไม่สามารถดูแลหรือจัดการทรัพย์สินของตนเองได้ เนื่องจากไม่มีสติสัมปชัญญะ ขาดความรําลึกของความรู้สึกเนื่องจากอาการป่วยหนัก (เช่น นอนป่วยติดเตียง สมองเสื่อมขันรุนแรง) และมีอาการดังกล่าวแบบติดตัวหรือเป็นประจำ
ผลในทางกฎหมาย
คนไร้ความสามารถต้องอยู่ในความดูแลของบุคคลทีเรียกว่า ผู้อนุบาล และคนไร้ความสามารถไม่สามารถทํานิติกรรมต่างๆได้เอง การทํานิติกรรมของคนไร้ความสามารถต้องให้ผู้อนุบาลเป็นผู้ทําแทนเท่านั้น นิติกรรมใดๆทีคนไร้ความสามารถทําลงเป็นโมฆียะ
บุคคลเสมือนไร้ความสามารถ
คนเสมือนไร้ความสามารถหมายถึงบุคคลทีมีกายพิการ เช่น หูหนวก ตาบอด เป็นใบ้ แขนขาด ขาขาด อัมพาตซึ่งอาจเป็นมาโดยกําเนิด หรือเกิดขึ้นภายหลัง หรือมีจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ แต่ยังไม่ถึงขันวิกลจริต หรือประพฤติสุรุ่ยสุร่ายเสเพลเป็นอาจิณ ใช้จ่ายเงินเกินกว่าฐานะอยู่เป็นประจํา หรือติดสุรายาเมาจนไม่สามารถจะจัดทําการงานโดยตนเองได้จึงต้องจัดอยู่ในความดูแลของผู้พิทักษ์ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 32 วรรคแรก
ผลในทางกฎหมาย
คนเสมือนไร้ความสามารถ จัดให้อยู่ในความดูแลของผู้พิทักษ์ทั้งในเรื่องของความเป็นอยู่และนิติกรรมซึงจะต้องได้รับความยินยอมจากผู้พิทักษ์ก่อนมิฉะนั้นจะตกเป็นโมฆียะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 34
การยื่นคําร้องขอให้ศาลมีคําสั่งให้เป็นบุคคลไร้ความสามารถหรือเสมือนไร้ความสามารถ
การเสนอคดีต่อศาลนั้นสามารถทําได้โดย ยื่นคําร้องต่อศาลอย่างคดีไม่มีข้อพิพาทโดยศาลทีมีเขตอํานาจในการพิจารณาคือศาลที่คนไร้ความสามารถหรือเสมือนไร้ความสามารถนั่นอยู่ในเขตศาลหรือศาล ทีผู้ร้องขอมีภูมิลําเนาอยู่ในเขตศาลและเมื่อศาลได้รับคําร้องจากผู้ร้องแล้ว ศาลจะนัดพิจารณาไต่สวนคําร้องและมีคําสั่งต่อไป
บุคคลที่มีสิทธิร้องขอตอศาลมีคําสั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถ หรือเสมือนไร้ความสามารถ
1.คู่สมรสสามีหรือภริยาเฉพาะทีได้จดทะเบียนสมรสตามกฎหมายแล้วเท่านั้น
2.ผู้บุพการีบิดามารดาปูย่าตายายทวด
3.ผู้สืบสันดานลูกหลานเหลนลือและรวมถึงบุตรบุญธรรมทีได้จดทะเบียนแล้วบุตรนอกกฎหมายที่บิดารับรองทางนิตินัยแล้ว
4.ผู้ปกครองผู้ดูแลหมายความรวมถึงผู้ปกครองตามกฎหมายและผู้ปกครองโดยพฤตินัยคือบุคคลที่ดูแลคนวิกลจริตด้วยโดยผู้ปกครองนั่นไม่จําเป็นต้องมีความเกี่ยวข้องเป็นญาติกับบุคคลวิกลจริตแต่อย่างใด แต่หากเป็นผู้ปกครองหรือดูแลเลียงดูบุคคลวิกลจริตตลอดมาก็มีสิทธิยื่นคําร้องได้
5.ผู้พิทักษ์บุคคลทีศาลตังให้เป็นผู้พิทักษ์คนเสมือนไร้ความสามารถ
6.พนักงานอัยการกรณีทีบุคคลอื่นทีนอกเหนือจากข้อ 1-5 หากมีเหตุผลและความจําเป็นที่ต้องขอให้บุคคลใดเป็นบุคคลไร้ความสามารถก็ต้องขอให้พนักงานอัยการเป็นผู้ยืนคําร้อง
เอกสารที่ต้องเตรียมในการยื่นคําขอ
1. ทะเบียนบ้านและบัตรประจําตัวประชาชนของผู้ร้อง
2. ทะเบียนบ้านและบัตรประจําตัวประชาชนหรือ Passport ของผู้ไร้ความสามารถหรือเสมือนไร้ความสามารถ
3. เอกสารแสดงความสัมพันธ์ระหว่างผู้ร้องกับคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถเช่นสูติบัตรใบสําคัญการสมรสทะเบียนรับรองบุตรเป็นต้น
4. ใบรับรองหรือรายงานความเห็นของแพทย์ไม่เกิน 6 เดือน
5. ภาพถ่ายของคนไร้ความสามารถหรือเสมือนไร้ความสามารถ
6. บัญชีเครือญาติ
7. หนังสือยินยอมจากทายาททีเกี่ยวข้องเช่นคู่สมรสทายาทหรือผู้มีส่วนได้เสีย
8. หนังสือสําคัญแสดงการเปลี่ยนชื่อสกุลบัตรประจําตัวคนพิการ (ถ้ามี)
การเพิกถอนคําสั่งคนไร้ความสามารถ
เมือศาลสั่งให้ใครเป็นคนไร้ความสามารถแล้ว คําสั่งของศาลย่อมมีผลตลอดไปจนกว่าศาลจะได้มีคําพิพากษาเปลี่ยนแปลงหรือเพิกถอนคําพิพากษา แม้ภายหลังคนไร้ความสามารถจะมีอาการกลับมาเป็นบุคคลปกติไม่มีอาการวิกลจริตแล้วก็ตาม หากยังไม่มีการเพิกถอนคําสั่งของศาล ก็จะถือว่าบุคคลนั้นเป็นคนไร้ความสามารถตามกฎหมายต่อไปอย่างไรก็ตามหากคนไร้ความสามารถได้รักษาอาการวิกลจริตจนกลับมาเป็นบุคคลปกติแล้ว ตัวคนไร้ความสามารถเองหรือบุคคลทีมีสิทธิร้องขอให้เป็นคนไร้ความสามารถตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 28 ก็มีสิทธิร้องขอต่อศาลสั่งให้เพิกถอนคําสั่งที่ให้เป็นคนไร้ความสามารถได้ และคําสั่งศาลที่ให้ไปถอนคําสั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถก็จะมีผลทันทีเมื่อศาลมีคําสั่ง และจะต้องประกาศในราชกิจจานุเบกษาเช่นเดียวกัน
คาใช้จ่ายในการยื่นคําร้องขอศาลมีคําสั่งใหเป็นคนไร้ความสามารถ หรือเสมือนไร้ความสามารถ
- ค่าขึ้นศาล200 บาท
- ค่านําปิดประกาศศาลหรือค่านําส่งหมายตามระยะทาง (ถ้ามี)หมายเหตุ : ค่าใช้จ่ายทั้งหมดไม่เกิน 1,500 บาท
ความสิ้นสุดของการเป็นคนเสมือนไร้ความสามารถ
การสิ้นสุดความเป็นคนเสมือนไร้ความสามารถตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 36 บัญญัติว่า“ถ้าเหตุที่ศาลได้สั่งให้เป็นคนเสมือนไร้ความสามารถได้สินสุดไปแล้วให้บัญญัติมาตรา 31 มาใช้บังคับโดยอนุโลม”
ความสิ้นสุดแห่งการเป็นคนเสมือนไร้ความสามารถตามบทบัญญัติดังกล่าวอาจแยกออกได้เป็น 3 กรณีคือ
1.เมื่อคนเสมือนไร้ความสามารถเสียชีวิต สิทธิและหน้าทีของบุคคลนั้นๆจะสิ้นสุดลง ดังนั้นอํานาจหน้าที่ของผู้พิทักษ์ต่อบุคคลดังกล่าวก็จะระงับไปด้วย
2.ถ้าคนเสมือนไร้ความสามารถเปลี่ยนฐานะกลายเป็นคนไร้ความสามารถเช่นมีอาการวิกลจริตหนักขึ้นและมีการร้องเรียนตามมาตรา 28 เพื่อให้ศาลสั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถ สถานะเป็นคนเสมือนไร้ความสามารถของบุคคลนั้นก็จะสิ้นสุดลงและเปลี่ยนเป็นคนไร้ความสามารถแทน
3.ถ้าสิ่งทีทําให้เสร็จสิ้นสถานะเป็นคนเสมือนไร้ความสามารถเป็นเหตุบกพร่องตามมาตรา 34 เช่น ประพฤติตนดี หยุดเสพสุรา หายจากอาการจิตฟั่นเฟือน และศาลมีคําสั่งเพิกถอนคําสั่งเป็นคนเสมือนไร้ความสามารถแล้ว สถานะเป็นคนเสมือนไร้ความสามารถของบุคคลนั้นจะสิ้นสุดลง
การสิ้นสุดความเป็นคนเสมือนไร้ความสามารถตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 36 บัญญัติว่า “ถ้าเหตุทีศาลได้สั่งให้เป็นคนเสมือนไร้ความสามารถได้สินสุดไปแล้วให้บัญญัติมาตรา 31 มาใช้บังคับโดยอนุโลม